ไทยพบติดเชื้อโควิดรายใหม่ 2,331 ราย เสียชีวิต 40 ยอดตายสะสม 1,525 ศพ รักษาหายอีกเกือบ 5,000 "ศบค.ชุดใหญ่"ถกปรับมาตรการผ่อนคลายบางจังหวัด พร้อมดัน"ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" โมเดลต้นแบบ 18 มิ.ย. "นายกฯ"ขอบคุณ 56 บริษัทธุรกิจประกันวินาศภัยไทย หนุนสู้โควิดอย่างต่อเนื่อง ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 16 มิ.ย.64 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงรายงานสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยมีรายละเอียดดังนี้ พบติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 2,331 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 2,276 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 26 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 29 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 4,947 ราย กลับบ้านแล้ว 167,665 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 35,405 ราย แบ่งเป็นในโรงพยาบาล 10,383 ราย และโรงพยาบาลสนาม 25,022 ราย ในจำนวนนี้มีอาการหนัก 1,306 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 364 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 40 ศพ ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,525 ศพ (ตั้งแต่ปี 2563) ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 204,595 ราย นับเป็นรายที่ 202,265-204,595ประเทศไทยเป็นอันดับที่ 79 ของโลก พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า ในการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ จะมีการพิจารณาปรับมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม โดยบางจังหวัดอาจเข้มข้นขึ้นในบางกิจการ บางพื้นที่ และบางจังหวัดอาจมีการผ่อนคลายเพิ่มเติม นอกจากนี้ จะมีการสรุปภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อเสนอแนะต่างๆ ไปปรับแก้ เพื่อให้ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นโมเดลต้นแบบที่จะนำร่องให้กับที่อื่นๆ เช่น เกาะสมุย เกาะพีพี พังงา กระบี่ ชลบุรี กรุงเทพฯ ชะอำ หัวหิน บุรีรัมย์ และเชียงใหม่ ต่อไป วันเดียวกัน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้รับทราบถึงการดำเนินการของภาคธุรกิจประกันวินาศภัยไทยเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในการควบคุมและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะการนำระบบประกันภัยมาช่วยในการบริหารความเสี่ยงให้กับประชาชนและประเทศชาติ ซึ่งร่วมมือกับบริษัทสมาชิกประกันวินาศภัย จำนวน 56 บริษัท ในการดำเนินการมาตรการตามที่ภาครัฐกำหนด และร่วมกันสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลในการควบคุมและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบด้วย 1) สมาคมฯ ร่วมกับบริษัทสมาชิก 12 บริษัท มอบกรมธรรม์ประกันภัยกลุ่มให้กับบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 274,000 คน โดยกรมธรรม์ดังกล่าวให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มีระยะเวลาคุ้มครอง 6 เดือน ทุนประกันภัย 1,000,000 บาทต่อคน รวมทุนประกันภัยทั้งสิ้น 274,000 ล้านบาท 2) สมาคมฯ ร่วมกับบริษัทสมาชิก 20 บริษัท มอบเครื่องช่วยหายใจให้กับโรงพยาบาลบุษราคัม เมืองทองธานี จำนวน 50 เครื่อง รวมมูลค่า 10,500,000 บาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานทางการแพทย์และเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเหลือ ให้สามารถรับการรักษาพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที 3) สมาคมฯ ร่วมกับบริษัทสมาชิก 10 บริษัท จัดโครงการ "ฉีดช่วยชาติ หมอพร้อมฉีดประกันวินาศภัยพร้อมดูแล" มอบกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองการแพ้วัคซีนให้กับประชาชนทั่วไปฟรี จำนวน 13 ล้านสิทธิ์ คุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน ทุนประกันภัยขั้นต่ำ 1 แสนบาท เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจแลกระตุ้นให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น "นายกรัฐมนตรีขอบคุณภาคธุรกิจประกันวินาศภัยไทยทุกหน่วยงาน ที่มุ่งมั่นในการทำหน้าที่เป็นผู้บริหารความเสี่ยงมืออาชีพให้กับภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งยังให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลและทุกภาคส่วนทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างเต็มความสามารถ พร้อมขอเป็นกำลังใจให้กับภาคธุรกิจประกันวินาศภัยไทยในการขับเคลื่อนภารกิจต่าง ๆ เพื่อชาติให้สำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ทุกประการเพื่อร่วมกันนำพาประเทศให้ก้าวข้ามผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน" นายอนุชา กล่าว