เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 มิ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 รพ.สิรินธร อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ยังคงมีประชาชนทยอยเดินทางมารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ตามแผนการดำเนินงานที่คณะกรรมการควบคุมโรคและคณะทำงานด้านวัคซีน สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น กำหนด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจคัดกรองและปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมไปถึงการกำหนดลำดับและการจัดเรียงคิวการฉีดวัคซีนตามขั้นตอนต่างๆที่เป็นไปอย่างคล่องตัวและเรียบร้อยในภาพรวม นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ขอนแก่นได้รับการจัดสรรวัคซีนจากรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข แยกเป็นซิโนแวค 82,080 โดส และ แอสตร้าเซเนก้า 20,100 โดส โดยได้รับการจัดสรมาตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมาและกำหนดการส่งมอบตามรอบการส่งที่ กระทรวงสาธารณสุข กำหนด ซึ่งขณะนี้จุดบริการฉีดวัคซีนทั้งจังหวัด รวม 47 จุดยังคงให้บริการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องทุกวัน ตามระบบบัญชีรายชื่อที่ได้มีการลงทะเบียนไว้ในภาพรวม ซึ่งในการบริหารจัดการวัคซีนนั้นเป็นไปตามแนวทางที่คณะกรรมการควบคุมโรคและ คณะกรรมกาสรบริหารวัคซีนจังหวัดกำหนด เน้นหนักไปที่บุคลากรทางการแพทย์ และกลุ่มด่านหน้า ซึ่งขณะนี้กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้รับวัคซีนไปแล้วมากกว่าร้อยละ 80 ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค นั้นได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว รวม 23,000 รายและยังคงทยอยฉีดวัคซีนตามพื้นที่จุดให้บริการอย่างต่อเนื่อง “จากการเปิดปฎิบัติการฉีดวัคซีนพร้อมกันทั้งประเทศ ที่จัดเป็นวาระแห่งชาติ ที่ดำเนินการพร้อมกันมาตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เราพบปัญหาหลัก 2 เรื่องที่สำคัญ คือ ผู้ที่มาฉีดวัคซีนแล้วเกิดการลังเลใจและเลือกวัคซีน กับอีกหนึ่งปัญหาคือกลุ่มวอร์คอินหน้างาน ที่ไม่มีการลงทะเบียนใดๆแต่มาที่จุดฉีดเพื่อรอการพิจารณาหน้างานว่าจะมีวัคซีนเหลือแต่ละวันหรือไม่ ซึ่งในการแก้ปัญหานั้น ในเรื่องของการเลือกวัคซีนแพทย์จะเป็นคนกำหนดเท่านั้นตามการวินิจฉัยแบบคนต่อคน ส่วนการวอร์คอินหน้างาน ขอยืนยันว่าไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งหากมีการกระทำดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการรับลงทะเบียนและจัดเรียงลำดับการให้บริการใหม่อีกครั้ง เนื่องจากยังคงสงวนสิทธิ์ในการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มบุคลากรด่านหน้า กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค รวมไปถึงกลุ่มเสี่ยงต่างๆตามการพิจารณาของคณะทำงาน” นพ.สมชายโชติ กล่าวต่ออีกว่า เป้าหมายที่ชัดเจนคือการให้คนขอนแก่น ได้รับวัคซีนเข็มแรกให้ได้ร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรทั้งหมดภายในเดือน ส.ค. ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้คนขอนแก่นได้รับวัคซีนไปแล้วทั้งสิ้น 110,000 คน ขณะที่วัคซีนที่ได้รับการจัดสรรนั้นจะทยอยส่งมาตามรอบการส่งทุกสัปดาห์เพื่อให้คณะทำงานได้ดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งยอมรับว่าทีมงานทุกคนนั้นล้าจากการทำงานอย่างมากทั้งการควบคุมและป้องกันจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและการให้บริการวัคซีน แต่ทุกคนมีความตั้งใจในการทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถจึงได้มีการหมุนเวียนสับเปลี่ยนกำลังและสนับสนุนการทำงานในระดับพื้นที่ และส่งกำลังสนับสนุนการทำงานของส่วนกลาง และต้องขอขอบคุณในน้ำใจของคนขอนแก่นที่สนับสนุนกำลังใจผ่านน้ำดื่ม ผ่านขนม ผ่านอาหาร ผ่านผลไม้ ผ่านชานมไข่มุก ผ่านไอศกรีม ผ่านแกงหน่อไม้ ผ่านไก่ทอด ต้มปลา ผ่านข้าวผัดกะเพราหรืออาหารต่างๆให้กับโรงพยาบาลและสถานที่ฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่องทุกวัน “ขณะนี้ สสจ.ขอนแก่นได้รับการประสานงานจากหน่วยงานต่างๆโดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และบริษัทเอกชนรายใหญ่ ในการเตรียมการให้บริการวัคซีนทางเลือก ตามการสั่งซื้อ ซึ่ง สสจ.ขอนแก่นพร้อมให้การสนับสนุนและกำหนดจุดฉีดวัคซีนให้กับหน่วยงานต่างๆตามการประสานงาน ซึ่งขณะนี้มีประสานงานมาแล้วหลายหน่วยงาน ซึ่งคณะทำงานได้กำหนดแผนการดำเนินงานในภาพรวมไว้เรียบร้อยแล้วทั้งหมด อย่างไรก็ตามยังคงขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานต่างๆที่จัดหาวัคซีนทางเลือก ที่ควรจะจัดหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน ให้ครบตามจำนวนวัคซีนด้วย ทั้งเข้มฉีดยา,หลอดฉีดยา,สำลี,ผ้าก๊อต,แอลกอฮอล์ และอุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากสิ่งของดังกล่าวที่มีอยู่ในการดูแลของ สสจ.ขอนแก่น นั้นมีอยู่ในจำนวนที่จำกัด จึงอยากให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมไว้อย่าครบถ้วนเพราะเมื่อได้รับการจัดสรรวัคซีนทางเลือกมาแล้วก็จะสามารถให้บริการกับผู้ที่จะเข้ารับการฉีดได้โดยทันทีในจุดที่กำหนดไว้”