วันที่ 15 มิ.ย.64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. กล่าวชี้แจงกรณี ปรากฏข่าวพบปืนหลวงเกี่ยวข้องการค้าปืนเถื่อนออนไลน์ ว่าเมื่อ 6 มิ.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. ได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 6/6 (ร้านทองศรีเพชรทอง 2), บ้านเลขที่ 6/5 (ร้านเจแอนด์ที เอ็กเพลส), บ้านเลขที่ 21 /23 (เต็นท์รถมือสอง) ถ.มาเจริญ แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ และท้องพักเลขที่ 142/592 ฟิวส์ เซนเซ่ บางแคคอนโดมิเนียม ถ.พุทธมณฑลสาย 2แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพฯ ตามหมายค้นของศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ ค.109 /2564, ค.111 /2564 และ ค.113/2564 ลง 1 มิ.ย.64 ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุน จำนวนหลายรายการ อยู่ในความครอบครองของนายอนพัชฯ หรือท๊อป ผู้ต้องหา ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ได้นำอาวุธปืนซึ่งเป็นของหน่วยงานราชการ ที่ตรวจค้นพบได้ในครั้งนี้ส่งตรวจสอบที่กองสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สพ.) พบว่า มีอาวุธปืนของกลางที่ สพ. ได้จ่ายให้กับ บช.น. จำนวน 11 กระบอก โดยเป็นอาวุธปืนขนาด .38 นิ้ว จำนวน 1 กระบอก ขนาด 9 มม. จำนวน 10 กระบอก หลังจากได้รับรายงานจาก บก.ป. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานในสังกัด ทำการตรวจสอบ ว่าอาวุธปืนดังกล่าวเป็นของหน่วยงานใด และอยู่ระหว่างการครอบครองดูแลรักษาของผู้ใด ผลการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า อาวุธปืนของกลางดังกล่าว อยู่ในความดูแลของ สน.บางเสาธง จำนวน 1 กระบอก, สน.ธรรมศาลา จำนวน 5 กระบอก และ สน.หลักสอง จำนวน 5 กระบอก รวมจำนวนทั้งสิ้น 11 กระบอก จึงได้สั่งการให้ บก.น.7 และ 9 ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า อาวุธปืนดังกล่าวอยู่ในคลัง สน. หรือ ได้มีการแจกจ่ายให้ข้าราชการตำรวจรายใดเป็นอาวุธประจำกาย หรือไม่ เมื่อได้ข้อเท็จจริงเรื่องตัวผู้รับผิดชอบแล้ว จะได้ดำเนินการทางวินัยกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยหากพบว่าข้าราชการตำรวจรายใด ได้นำอาวุธปืนไปจำหน่ายหรือจำนำโดยเจตนา ก็จะต้องถูกดำเนินคดีอาญาด้วย ทั้งนี้ บช.น. ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ 0015.143/6581 ลง 8 มิ.ย.64 กำชับการปฏิบัติเกี่ยวกับการควบคุม และการตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้อาวุธปืนของทางราชการ โดยให้ทุกหัวหน้าหน่วยระดับ สน./กก. ด้วยตนเอง ตรวจสอบการจ่ายอาวุธปืนของหลวงทุกชนิดและการปฏิบัติเกี่ยวกับอาวุธปืน เพื่อเป็นการป้องกัน มิให้เกิดการสูญหาย หรือเสียหายแก่ทางราชการอย่างร้ายแรง โดยกำหนดวงรอบการตรวจสอบเป็นประจำทุก 6 เดือน (มิ.ย. และ ธ.ค.) รวมทั้งให้จัดทำคำสั่งมอบหมายผู้รับผิดชอบระดับ รอง ผกก. มีหน้าที่ควบคุมกำกับดูแลให้มีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ โดยกำหนดวงรอบการปฏิบัติทุกเดือน แล้วรายงานให้ บช.น. ทราบตามวงรอบต่อไป ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด – 19 แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและยาเสพติดอย่างเคร่งครัด พบเห็นหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่