นายวีระศักดิ์ ยอดอาจ ที่ปรึกษากฎหมายชมรมสื่อออนไลน์ เปิดเผยว่า จากกรณีรถทัวร์โดยสารเส้นทางกรุงเทพฯ-อุดรธานี เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ทั้งคัน ที่จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 5 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กและยังมีผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก จากผลการตรวจสอบโดยทีมสอบสวนอุบัติเหตุจากส่วนกลาง พบว่าระบบห้ามล้อขัดข้องทำให้เบรกติด และเกิดความร้อนสูงจนล้อยางเพลาขับระเบิด ประกอบกับมีการติดตั้งถังก๊าซ CNG ชิ้นส่วนของยางระเบิดทำให้ท่อส่งก๊าซขาดและเกิดการรั่วไหล เป็นเหตุให้เพลิงลุกไหม้ทั้งคัน หลังเกิดเหตุสลดดังกล่าวทราบว่าทางอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้มีหนังสือสั่งการให้ผู้ประกอบการนำรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสาร ที่ติดตั้งระบบ CNG เข้ารับการตรวจสภาพรถเป็นการเร่งด่วน เป็นมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันมิให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำรอยขึ้นมาอีก
อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้ ตนได้รับร้องเรียนจากประชาชนผู้ใช้บริการรถเมล์ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา รถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ขสมก.สาย 129 มุ่งหน้าสำโรง มีผู้โดยสารประมาณ 40 คน ขณะขับมาบนทางด่วนถึงบริเวณต่างระดับท่าเรือ ได้เกิดกลิ่นไหม้จากท้ายรถ พนักงานขับรถจึงพยายามนำรถเข้าจอดและเปิดประตูให้ผู้โดยสารลงเพื่อเปลี่ยนถ่ายรถ ระหว่างนั้นได้เกิดเปลวไฟลุกไหม้บริเวณห้องเครื่องท้ายรถ หลายคนสำลักควันเพราะก่อนรถจอดให้ลงควันก็แน่นหลังรถแล้ว ผู้โดยสารต่างวิ่งหนีตายลงจากรถเมล์ แต่ยังโชคดีที่ไม่มีใครเป็นอันตราย ทั้งนี้ผู้ร้องเรียนได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุของเพลิงลุกไหม้ดังกล่าว มาจากการรั่วไหลของก๊าซหรือไม่ เพราะเป็นรถเมล์ NGV จึงอยากให้มีการตรวจสอบรถเมล์ที่ติดตั้งระบบ NGV ทั้งหมด ว่ามีความปลอดภัยหรือไม่
"อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ทำให้ชาวบ้านที่ต้องเดินทางโดยอาศัยรถเมล์ ขสมก. หรือรถโดยสารระหว่างจังหวัด เกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะเหมือนต้องนั่งอยู่บนรถติดถังระเบิดวิ่งเกลื่อนท้องถนนสาธารณะ ต้องคอยหวาดระแวงไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเกิดระเบิดขึ้นมาอีก จึงอยากให้กรมการขนส่งทางบก และ ขสมก. สั่งให้มีการตรวจสอบรถโดยสารประจำทางอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะถังก๊าซ NGV ที่ติดตั้งหมดอายุแล้วหรือไม่ เจ้าหน้าที่ขนส่งได้มีการตรวจอย่างเข้มงวดหรือไม่ ท้ายที่สุดคงต้องขอฝากรมว.คมนาคมสั่งการให้มีการตรวจสอบอย่างจริงจังเสียที โดยเฉพาะรถร่วม บขส. ได้ข้อมูลมาว่าส่วนใหญ่ถังก๊าซที่ติดตั้งหมดอายุแล้วและไม่เคยตรวจสอบสภาพตามระเบียบเกือบร้อยเปอร์เซนต์ ทั้งนี้เพื่อให้รถโดยสารมีความปลอดภัยในการใช้งาน และเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในระเบียบกรมการขนส่งทางบก ชาวบ้านจะได้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัย"
อย่างไรก็ตามเมื่อเร็วๆนี้ ตนได้รับร้องเรียนจากประชาชนผู้ใช้บริการรถเมล์ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ว่า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา รถโดยสารประจำทางปรับอากาศ ขสมก.สาย 129 มุ่งหน้าสำโรง มีผู้โดยสารประมาณ 40 คน ขณะขับมาบนทางด่วนถึงบริเวณต่างระดับท่าเรือ ได้เกิดกลิ่นไหม้จากท้ายรถ พนักงานขับรถจึงพยายามนำรถเข้าจอดและเปิดประตูให้ผู้โดยสารลงเพื่อเปลี่ยนถ่ายรถ ระหว่างนั้นได้เกิดเปลวไฟลุกไหม้บริเวณห้องเครื่องท้ายรถ หลายคนสำลักควันเพราะก่อนรถจอดให้ลงควันก็แน่นหลังรถแล้ว ผู้โดยสารต่างวิ่งหนีตายลงจากรถเมล์ แต่ยังโชคดีที่ไม่มีใครเป็นอันตราย ทั้งนี้ผู้ร้องเรียนได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุของเพลิงลุกไหม้ดังกล่าว มาจากการรั่วไหลของก๊าซหรือไม่ เพราะเป็นรถเมล์ NGV จึงอยากให้มีการตรวจสอบรถเมล์ที่ติดตั้งระบบ NGV ทั้งหมด ว่ามีความปลอดภัยหรือไม่
"อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ทำให้ชาวบ้านที่ต้องเดินทางโดยอาศัยรถเมล์ ขสมก. หรือรถโดยสารระหว่างจังหวัด เกิดความไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะเหมือนต้องนั่งอยู่บนรถติดถังระเบิดวิ่งเกลื่อนท้องถนนสาธารณะ ต้องคอยหวาดระแวงไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเกิดระเบิดขึ้นมาอีก จึงอยากให้กรมการขนส่งทางบก และ ขสมก. สั่งให้มีการตรวจสอบรถโดยสารประจำทางอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะถังก๊าซ NGV ที่ติดตั้งหมดอายุแล้วหรือไม่ เจ้าหน้าที่ขนส่งได้มีการตรวจอย่างเข้มงวดหรือไม่ ท้ายที่สุดคงต้องขอฝากรมว.คมนาคมสั่งการให้มีการตรวจสอบอย่างจริงจังเสียที โดยเฉพาะรถร่วม บขส. ได้ข้อมูลมาว่าส่วนใหญ่ถังก๊าซที่ติดตั้งหมดอายุแล้วและไม่เคยตรวจสอบสภาพตามระเบียบเกือบร้อยเปอร์เซนต์ ทั้งนี้เพื่อให้รถโดยสารมีความปลอดภัยในการใช้งาน และเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในระเบียบกรมการขนส่งทางบก ชาวบ้านจะได้เกิดความมั่นใจในความปลอดภัย"