วันที่ 12 มิ.ย.64 พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รอง ผบก.น.2 รับรายงานว่าพ.ต.ท.อรรถพงษ์ จันทนะสร รอง ผกก.(หัวหน้าชุด ปส.บก.น.2) พร้อม พ.ต.ท.บัญชา บุญเชิด,พ.ต.ท.เข็มกล้า มั่นพลับ,พ.ต.ท. รัตน์พัฒน์ ฝึกฝน สว.ฯ ร.ต.อ.ประพันธ์ พูนรัตน์,ร.ต.อ.นิคม ประดับวงษ์,ร.ต.ท.จรัส ผึ้งเถื่อน,ร.ต.ต.สมพร จันทะวงศา รอง สว.ฯ(ช่วยราชการ ชปส.บก.น.2)
และกำลังชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.2 ร่วมกันจับกุมตัวนายกิตติ์ธเนศ หรือมิ๊ก โรจน์กิตติพัฒน์ อายุ 30 ปี พร้อมของกลางแท่นผลิตยาเสพติด (ยาอี) จำนวน 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์,ยาอี ชนิดเม็ดสีชมพู จำนวน 34 เม็ด,ยาอี ชนิดเม็ดสีม่วง จำนวน 58 เม็ด,ยาอี ชนิดเม็ดสีเขียว จำนวน 95 เม็ด,ยาอี ลักษณะเป็นผง สีเขียว จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 6.25 กรัม,ยาปาตี้ หรือเบนซีพิเพอราซีน (BZP) ชนิดแคปซูลสีขาว จำนวน 67 เม็ด,ยาเคตามีน ชนิดผงสีขาว จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 3.07 กรัม,ยาเคตามีน ชนิดเกร็ด จำนวน 3 ถุง น้ำหนัก 12.54 กรัม, ยาอี ชนิดผงสีม่วงอ่อน จำนวน 1 กระปุก น้ำหนัก 112.6 กรัม,กัญชาแห้ง จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 80 กรัม,ตัวตอกสัญลักษณ์ จำนวน 5 อัน,ถ้วย ตวงยาเสพติด จำนวน 4 อัน,เครื่องชั่งดิจิตอล จำนวน 2 เครื่อง,ถาดใช้สำหรับนับเม็ดยาเสพติด จำนวน 1 อัน,ผงสีม่วง จำนวน 1 ถุงพลาสติก น้ำหนัก 90 กรัม,ผงสีขาว จำนวน 3 ถุง รวมน้ำหนัก 1,736 กรัม โดยจับกุมที่บ้านพักภายในซอยเพิ่มสิน 49 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.
การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุด ปส.บก.น.2 ได้สืบสวนและขยายผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ จนสามารถสืบสวนทราบว่า นายกิตติ์ธเนศ ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด และเก็บซุกซ่อนยาเสพติดไว้ภายในบ้านพัก เพื่อรอส่งให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงได้นำหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ แท่นผลิตยาเสพติด พร้อมหัวตอก และยาเสพติดจำนวนมาก รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ จำนวน 22 รายการ ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ของผู้ต้องหา จึงได้ทำการตรวจสอบยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายกิตติ์ธเนศ ผู้ต้องหาให้การว่า แท่นผลิตยาเสพติดนั้น เป็นแท่นที่ใช้ผลิตยาอี โดยอ้างว่ามีนายเอ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 30 ปีได้นำแท่นผลิตยาเสพติดพร้อมหัวตอก และสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด มาให้ตนเป็นคนผลิต โดยจะได้ค่าจ้างในการผลิตแต่ละครั้งละ 50,000 บาท โดยทำมาประมาณ 5-6 เดือน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเที่ยวตามสถานบันเทิง แต่ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 สถานบริการต่างๆ ปิด จึงไม่ได้ผลิตยาเสพติดส่งให้ลูกค้า แต่ได้เก็บแท่นผลิตและสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดไว้ เพื่อรอลูกค้านักเที่ยวตามสถานบันเทิงที่จะเปิดอีกครั้ง กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
และกำลังชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติด บก.น.2 ร่วมกันจับกุมตัวนายกิตติ์ธเนศ หรือมิ๊ก โรจน์กิตติพัฒน์ อายุ 30 ปี พร้อมของกลางแท่นผลิตยาเสพติด (ยาอี) จำนวน 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์,ยาอี ชนิดเม็ดสีชมพู จำนวน 34 เม็ด,ยาอี ชนิดเม็ดสีม่วง จำนวน 58 เม็ด,ยาอี ชนิดเม็ดสีเขียว จำนวน 95 เม็ด,ยาอี ลักษณะเป็นผง สีเขียว จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 6.25 กรัม,ยาปาตี้ หรือเบนซีพิเพอราซีน (BZP) ชนิดแคปซูลสีขาว จำนวน 67 เม็ด,ยาเคตามีน ชนิดผงสีขาว จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 3.07 กรัม,ยาเคตามีน ชนิดเกร็ด จำนวน 3 ถุง น้ำหนัก 12.54 กรัม, ยาอี ชนิดผงสีม่วงอ่อน จำนวน 1 กระปุก น้ำหนัก 112.6 กรัม,กัญชาแห้ง จำนวน 1 ถุง น้ำหนัก 80 กรัม,ตัวตอกสัญลักษณ์ จำนวน 5 อัน,ถ้วย ตวงยาเสพติด จำนวน 4 อัน,เครื่องชั่งดิจิตอล จำนวน 2 เครื่อง,ถาดใช้สำหรับนับเม็ดยาเสพติด จำนวน 1 อัน,ผงสีม่วง จำนวน 1 ถุงพลาสติก น้ำหนัก 90 กรัม,ผงสีขาว จำนวน 3 ถุง รวมน้ำหนัก 1,736 กรัม โดยจับกุมที่บ้านพักภายในซอยเพิ่มสิน 49 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.
การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุด ปส.บก.น.2 ได้สืบสวนและขยายผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ จนสามารถสืบสวนทราบว่า นายกิตติ์ธเนศ ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติด และเก็บซุกซ่อนยาเสพติดไว้ภายในบ้านพัก เพื่อรอส่งให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่จึงได้นำหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ แท่นผลิตยาเสพติด พร้อมหัวตอก และยาเสพติดจำนวนมาก รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ จำนวน 22 รายการ ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในห้องนอนชั้น 2 ของผู้ต้องหา จึงได้ทำการตรวจสอบยึดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายกิตติ์ธเนศ ผู้ต้องหาให้การว่า แท่นผลิตยาเสพติดนั้น เป็นแท่นที่ใช้ผลิตยาอี โดยอ้างว่ามีนายเอ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 30 ปีได้นำแท่นผลิตยาเสพติดพร้อมหัวตอก และสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด มาให้ตนเป็นคนผลิต โดยจะได้ค่าจ้างในการผลิตแต่ละครั้งละ 50,000 บาท โดยทำมาประมาณ 5-6 เดือน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักเที่ยวตามสถานบันเทิง แต่ช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 สถานบริการต่างๆ ปิด จึงไม่ได้ผลิตยาเสพติดส่งให้ลูกค้า แต่ได้เก็บแท่นผลิตและสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดไว้ เพื่อรอลูกค้านักเที่ยวตามสถานบันเทิงที่จะเปิดอีกครั้ง กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งให้พนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย