วันที่ 12 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ รายงานว่า มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคมโซเชียลภายหลังโรงเรียนอนุบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 ประกาศลดค่าอาหารว่างก่อนเปิดภาคเรียนในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 จากเดิมเก็บรายได้ค่าอาหารว่างจากผู้ปกครองนักเรียนรายละ 1,000 บาทต่อ 1 ภาคการศึกษา โดยระบุว่า ด้วยสถานการณ์โควิด 19 โรงเรียนขอแจ้งการลดค่าใช้จ่ายในภาคเรียนที่ 1 /2564 ดังนี้ 1. ห้องเรียนปกติ ป.1-ป.6(สลับวันมาเรียน) ลดค่าอาหารว่าง 400 บาท ผู้ปกครองจ่ายเพียง 600 บาท 2.ห้องเรียนปฐมวัยและห้องเรียนพิเศษ EP(มาเรียนทุกวัน) ลดค่าอาหารว่าง 300 บาท ผู้ปกครองจ่ายเพียง 700 บาท สำหรับภาคเรียนที่ 2/2564 โรงเรียนจะนำข้อมูลการดำเนินการ เพื่อพิจารณาลดค่าใช้จ่ายอีกครั้ง
จ่าเอกเสกสรรค์ จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า มีผู้ปกครองหลายรายที่มีบุตรหลานเรียนหนังสือในโรงเรียนดังกล่าว ร้องเรียนขอให้ตรวจสอบ เนื่องจากค่าใช้จ่ายส่วนเกินถือเป็นภาระในช่วงโควิด เพราะมีผลกระทบจากรายได้ แต่ผู้ปกครองไม่ประสงค์เดินทางไปร้องศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัด เนื่องจากเกรงว่าบุตรหลานที่เรียนหนังสือจะมีผลกระทบ จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าเงินค่าอาหารว่างที่จ่ายเพิ่ม ผู้บริหารโรงเรียน และประธานกรรมสถานศึกษา จะอ้างว่าเป็นมติของสมาคมผู้ปกครองและครูฯ ที่ผ่านมามีการเก็บเงินผู้ปกครองปีละกว่า 3.2 ล้านบาท ทั้งที่ทุกโรงเรียนของรัฐบาลมีการอุดหนุนงบค่าอาหารกลางวันให้นักเรียนหัวละ 21 บาท รวมทั้งการแจกอาหารเสริมนมโรงเรียน ขณะที่โรงเรียนอนุบาลสละชีพ ห่างจากโรงเรียนดังกล่าวไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นโรงเรียนสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)ประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 แต่ผู้บริหารไม่ได้เก็บค่าใช้จ่ายส่วนเกินค่าอาหารว่างแต่อย่างใด