เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ, พ.ต.ท.สาธิต สมานภาพ, พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.พลวุฒิ ผาตินุวัติ สว.กก.1 บก.ป. ร.ต.อ.สุรพล ชูใจ  รอง สว.กก.1 บก.ป. ร.ต.ท.เอกกรินทร์ ทองหยด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราชสาส์น ร่วมกันจับกุม นายวิฑูรย์ หรือลูน (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครนายก ที่ 224/2551 ลงวันที่ 20 พ.ค.51 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุม”ได้ที่ บริเวณฟาร์มเลี้ยงไก่ ม.8 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาจ.ฉะเชิงเทรา    สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.51 นายวิฑูรย์ฯ        (ผู้ต้องหา) พร้อมกับเพื่อนอีก 4 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ออกจากบ้านพัก เพื่อไปแข่งรถจักรยานยนต์กับกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้าน บริเวณริมถนนสายองครักษ์-บางน้ำเปรี้ยว อ.องครักษ์ จ.นครนายก ต่อมาเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ กลุ่มผู้ต้องหาได้พบกับกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 3 คน ที่มารวมตัวรอแข่งรถจักรยานยนต์ และได้เกิดมีปากเสียงพูดจาท้าทายกัน ก่อนจะชกต่อยกัน หลังจากนั้นนายวิฑูรย์ฯ (ผู้ต้องหา) ได้ใช้อาวุธปืนสั้นที่พกติดตัวมา ยิงใส่ไปยังกลุ่มผู้เสียหายจำนวนหลายนัด เป็นเหตุทำให้กลุ่มผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 คน หลังจากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาทางกลุ่มผู้เสียหายจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.องครักษ์ จนกระทั่งพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับ นายวิฑูรย์ฯ และเพื่อนอีก 4 คน  กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาทำงานรับจ้างดูแลฟาร์มไก่ บริเวณ ม.8 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหา จึงได้แสดงตัวและเข้าทำการจับกุม นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.องครักษ์ ดำเนินคดี ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วก่อนหน้านี้ จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การ “ภาคเสธ” โดยให้การว่า ในวันเกิดเหตุตนและเพื่อนอีก 4 คน ได้รวมตัวพากันขี่รถจักรยานยนต์ไปยังสถานที่เกิดเหตุ เพื่อรอทำการแข่งขันจักรยานยนต์กับกลุ่มวัยรุ่นต่างหมู่บ้านจริง และเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้มีการทะเลาะวิวาทและมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นผู้เสียหายจริง แต่ตนไม่ได้เป็นคนลงมือยิงกลุ่มวัยรุ่นผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากเกิดเหตุตนได้เปลี่ยนที่พักอาศัยและเปลี่ยนอาชีพตลอดระยะเวลา 14 ปี เพื่อหลบหนีการถูกจับกุม