แนวโน้มโควิดติดเชื้อใหม่-ตายยังสูง ยังพบคลัสเตอร์ใหม่หลายจังหวัด

ติดเชื้อในปท.วันนี้ 2,260 ราย มาจากต่างประเทศ 30 ราย ไม่มีลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย ยอดติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขังเพิ่ม 294 ราย  กทม.ยังพบป่วยใหม่และตาย ยังอันดับ 1 พบเบาหวานความดันไขมันในเลือดสูง ยังเป็นปัจจัยให้เกิดความรุนแรง และเป็นการติดในครอบครัว ขณะที่หายป่วยสูงขึ้น 5,711 ราย ยังรักษาอยู่ 43,428 ราย อาการหนัก 1,287 ราย ใส่เครื่องช่วย 352 ราย สำหรับคลัสเตอร์ใหม่วันนี้มี สงขลา เพชรบุรี จันทบุรี กทม. วันที่ 11 มิ.ย.2564  ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วย โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 2,290 ราย โดยเป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,260 ราย (แยกเป็นจากระบบเฝ้าระวังและบริการสุขภาพ 1,334 ราย จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 632 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 294 ราย) และเดินทางมาจากต่างประเทศอีก 30 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 189,828 ราย วันนี้มีผู้เสียชีวิตอีก 27 ราย ทำให้ยอดเสียชีวิตขยับไปที่ 1,402 ราย รักษาหายเพิ่มอีก 5,711 ราย รวมยอดรักษาหาย 144,998 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 43,428 ราย เป็นการรักษาอยู่ในรพ.16,768 ราย รพ.สนาม 26,660 ราย ทั้งนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,287 ในจำนวนผู้ป่วยหนักนี้ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจถึง 352 ราย ทั้งนี้ในรอบ 24 ชม.มีการตรวจพบการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย รวม 208 ราย โดยพบมากสุดบริเวณแนวชายแดน 193 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มี 11 รายติดเชื้อ เฉพาะการระบาดในระลอกเดือนเมษายน ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 11 มิ.ย.64 พบผู้ป่วยรายใหม่จำนวน 2,290 ราย โดยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 160,965 ราย รักษาหายเพิ่ม 5,711 ราย รวมรักษาหายแล้ว 117,572 ราย ยังรักษาอยู่จำนวน 43,428 ราย เสียชีวิต 27 ราย รวมเสียชีวิตสะสม 1,308 ราย รายละเอียดผู้เสียชีวิต 27 ราย เป็นเพศชาย 15 ราย เพศหญิง 12 ราย อายุ 48-94 ปี อยู่ในพื้นที่ กทม.มากที่สุด 17 ราย ปทุมธานี สมุทรสาคร จังหวัดละ 2 ราย สมุทรปราการ กาญจนบุรี กำแพงเพชร ชัยนาท ราชบุรี สระบุรี  จังหวัดละ 1 ราย โดยมีโรคประจำตัว เป็นโรคความดันโลหิต เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หัวใจ โรคปอด มะเร็ง โรคไต โรคอ้วน โรคตับ หลอดเลือดสมอง ไม่มีโรคประจำตัว ซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้เกิดความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น  โดยในจำนวนนี้ เป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัว และยังมีติดจากคนอื่นๆ มากสุดเช่นเดิม เช่น เพื่อน เพื่อนร่วมงาน ผู้ป่วยในรพ. อาศัยและเดินทางเข้าไปในสถานที่ระบาด อยู่/ไปสถานที่เสี่ยง เช่น ห้าง สำหรับ 10 อันดับที่พบผู้ป่วยภายในประเทศสูงสุด อันดับ 1 ยังเป็นกรุงเทพมหานคร 942 ราย อันดับ 2 สมุทรปราการ 173 ราย อันดับ 3 นนทบุรี 102 ราย อันดับ 4 สมุทรสาคร 98 ราย อันดับ 5 นครปฐม 83 ราย อันดับ 6 สงขลา 70 ราย อันดับ 7 เพชรบุรี 56 ราย อันดับ 8 ปทุมธานี 50 ราย อันดับ 9  ชลบุรี 47 ราย อันดับ 10 จันทบุรี 37 ราย