ป้าต๋อย ก้มกราบ ขอบคุณผู้ใจบุญ ที่มอบเงินเบื้องต้นพยุงชีวิตหลังต้องอาศัยอาหารจากของเหลือในงานศพมาเลี้ยงชีพ 7 ชีวิต พ้อเมื่อวานเกือบคิดสั้นเพราะไร้หนทาง ถึงวันนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาขอซื้อไต และหน่วยงานรัฐยังไม่มีใครยื่นมือมาช่วย วันนี้ 11 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวติดตาม ความคืบหน้าหลังจาก นางธนพร หรือป้าต๋อย ชาวจังหวัดนครปฐม ซึ่งอาศัยเช่าที่ดินวัดใหม่ปิ่นเกลียว โดยพักอยู่กับลูกหลาน รวม 7 ชีวิต ได้มีการเสนอการขายไต เพื่อนำเงินมาประคองชีวิต เนื่องจากไม่มีงานและเงินติดบ้าน หลังจากโดนพิษโควิด-19 เล่นงานตั้งแต่ระรอกแรกทำให้เงินเก็บที่มีอยู่หมดลง ต้องอาศัยสัปเหร่อของวัดนำเป็ด ไก่ และกับข้าว ที่เหลือจากงานศพมาแบ่งให้ใช้กินเพื่อยืดชีวิตออกไปในช่วงวิกฤตินี้ โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับนางธนพร หรือป้าต๋อย ซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่หน้าบ้านด้วยแววตาเหม่อลอย ซึ่งวันนี้ได้มีผู้บริหารสำนักข่าวและผู้ใจบุญที่ทราบข่าว ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 5,000 บาท สำหรับใช้ในการตั้งหลักซื้ออาหารและนำทุนไปสำหรับทำห่อหมกเพื่อหารายได้เพิ่มเติม และจังหะที่ ป้าต๋อย ได้รับเงินจำนวนดังกล่าว ได้ก้มลงกราบที่พื้นและร้องไห้แสดงความตื้นตันใจออกมา ซึ่งเป็นภาพที่น่าเวทนากับสื่อที่มาทำข่าวและเพื่อนบ้านที่วนเวียนมาเยี่ยมเยียนเพื่อให้กำลังใจกับป้าต๋อย นางธนพร หรือ ป้าต๋อย บอกว่า วันนี้ไม่มีเงินติดตัวแล้ว ลูกชายก็เพิ่งออกจากบ้านไปเพื่อเอาทองแดงจากพัดลม เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคนเอามาให้ ไปชั่งขายที่ร้านรับซื้อของเก่า ส่วนลูกสะใภ้ก็กลับไปต่างจังหวัดเพื่อไปหยิบยืมเงินญาติๆมาให้ ก็กลับมาไม่ได้เพราะโดนกักตัว 14 วัน เมื่อวานก็ไปหาหมอที่คลีนิดชุมชน ฉีดมาที่ขามา 60 บาทก็ไม่เหลือเงินเลย ช่วงเย็นก็ไปนั่งร้องไห้ที่ศาลาวัดใหม่ปิ่นเกลียว คิดว่าจะปีนแทงค์น้ำ และกระโดดลงมาฆ่าตัวตายให้จบเรื่องไป แต่ก็ยังห่วงหลานๆ วันนี้มีเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวก็ให้กำลังใจมาบอกว่าอย่าคิดสั้น และยังไม่มีหน่วยงานราชการใดมาติดต่อ และตนเองก็ไม่รู้จะไปหันพึ่งใครอีกแล้ว “ป้าขอกราบขอบพระคุณคนที่ให้เงินป้ามาประทังชีวิต ป้าจะเอาไว้ใช้ซื้อข้าวสารและเอามาทำทุนเพื่อจะขายห่อหมกเผื่อจะมีคนมาอุดหนุนและจะได้มีรายได้เข้ามาบ้าง วันนี้เงินที่ไปกู้นอกระบบก็ไม่ได้ส่ง น้ำไฟก็มีใบเตือนมาหมดแล้ว ไม่รู้จะไปทางไหน มีคนมาถามว่าป้าจะขายไต มันผิดกฎหมาย ป้าก็ยอมผิดดเพราะป้าไม่รู้จะหาเงิน หางานทางไหนแล้ว ถ้ามันจะช่วยหลานๆป้าได้ ก็จะทำ แต่วันนี้ก็มีกำลังใจเพราะมีคนที่เขาใจบุญช่วยต่อชีวิตป้ามาบ้างแล้ว และถึงตอนนี้ยังไม่มีใครประสานมาขอซื้อไต ตามที่บอกเอาไว้” ป้าต๋อยกล่าวทั้งน้ำตา ขณที่ นางเตือน ชาวนาฟาง อายุ 63 ปี หรือป้าเตือน แม่ค้าขายถั่ว บอกว่า วันนี้มาให้กำลังใจเขา รู้จักกันมาปีกว่าบอกเลยว่าเขาลำบากจริงๆ เพราะเขาก็ป่วยงานก็ไม่มี ลูกชายเขาก็พยายามหางาน แต่ไม่มีใครจ้างเขา ป้าก็ได้แต่ช่วยครั้ง 200-300 บาท บ้างตามกำลังที่จะช่วยได้เพราะเราก็ไม่ได้ร่ำรวย วันนี้ชีวิตเขาน่าสงสาร เราก็จะเป็นกำลังใจบอกเขาว่าอย่าคิดสั้น โลกยังคงต้องดำเนินไป ถ้าเรายังอยู่ช่วยเขาได้ก็จะช่วย นี่มีคนนเริ่มช่วยก็ถือว่าน่าจะสร้างกำลังใจให้เขาสู้กันต่อไปได้ให้พ้นวิกฤตนี้” ทั้งนี้หลังมีข่าวเริ่มเผยแพร่ออกไป ชาวบ้านระแวกใกล้เคียงก็ได้เริ่มที่ตจะเข้ามาสอบถามและเข้ามาให้กำลังใจป้าต๋อย แต่ยังไม่มีหน่วยงานรัฐจากส่วนใดลงมาติดต่อสอบถามหรือเข้ามาให้การช่วยเหลือ ซึ่งตอนนี้ชาวบ้านก็จะขอช่วยเหลือกันคนละเล็กละน้อยไปก่อนเพื่อพยุงให้ครอบครัวป้าต๋อยทั้ง 7 ชีวิต ผ่านวิกฤติในการได้อาหารมารับประทานไปวันต่อวันก่อน ซึ่งหลายคนชมว่าทั้งป้าต๋อยลูกสะใภ้และหลานๆเป็นคนนิสัยดีน่ารักกับคนที่ได้เข้ามาพูดคุยคบหากันเป็นที่รู้จักของแม่ค้าตลาดนัดวัดใหม่ปิ่นเกลียวหลายคนด้วย