วันที่ 10 มิ.ย.64 ที่ตำรวจภูธรภาค 6 พ.ต.อ.อุบล กันทะเขียว ผู้กำกับการกลุ่มงานสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก/ รองโฆษก ตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก กล่าวเปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏในข่าว Social Media กรณีร้องเรียนต่อ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก " คดีนายทุนเงินกู้เบี้ยวคืนโฉนดที่ดิน มูลค่านับพันล้านบาท แจ้งความ 4 ปี แต่คดีไม่คืบหน้า " นั้น โดยนางนภัสวรรณ อินมลเทียร พร้อมผู้เสียหายจากเงินกู้นอกระบบ ในพื้นที่ อ.นครไทย, อ.เมือง จ.พิษณุโลก กว่า 10 ราย ได้รวมตัวเข้ายื่นหนังสือถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามและเร่งรัดคดีค้างเก่ามานานเกือบ 4 ปี หลังจากนำที่ดินไปจำนองกับนายทุนเงินกู้นอกระบบ แต่เมื่อนำเงินไปใช้หนี้พร้อมขอไถ่ถอน คืนโฉนดกลับถูกบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมนำโฉนดที่ดินมาคืนให้กับผู้เสียหาย รวมเงินที่มีผู้ตกเป็นเหยื่อทั้งที่เปิดเผยและไม่เปิดเผยจำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท และได้แจ้งความดำเนินคดี อเดือนมกราคม 2561 รวมทั้งยื่นเรื่องให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือแล้ว แต่กลับพบว่าเกิดความล่าช้าในการทำสำนวนเพื่อส่งอัยการ เรียกสอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมด 84 ราย ยังไม่ครบ ทำได้เพียง 38 ราย ทำให้สำนวนที่ส่งไปให้อัยการถูกตีกลับ ขณะที่ลูกหนี้ทุกคนต้องการ นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการขึ้นฟ้องต่อศาล แต่ ณ วันนี้ เรื่องล่าช้าผิดปกติจึงต้องมายื่นร้องเรียนเพื่อให้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ช่วยเหลือเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนทำสำนวนโดยเร็ว จากกรณีดังกล่าว ตำรวจภูธรภาค 6 ขอชี้แจงข้อเท็จจริงและความคืบหน้า ดังนี้ พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องไปยังอัยการจังหวัดพิษณุโลก และอัยการฯ มีหนังสือให้สอบสวนปากคำพยานที่มีรายชื่อในรายงานการสอบสวนทั้งหมด 70 ปาก เพิ่มเติมซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไปได้ 38 ปาก และได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมไปยังอัยการฯ แล้วส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างออกหมายเรียกมาให้ปากคำในวันที่ 17 - 21 มิถุนายน 2564 ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 6 ขอฝากความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชน ในการใช้ช่องทาง การสื่อสารผ่านระบบ Social Media โดยขอให้ใช้วิจารณญาณในการพิจารณาข้อเท็จจริงโดยละเอียด และหากพบเห็นการกระทำในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนหรืออันตราย สามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนมายังสายด่วน 191 และ 1599 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง