วันที่ 10 มิ.ย.2564 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนนครฉงชิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 6-8 มิ.ย.2564 ตามคำเชิญของนายหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรมว.ต่างประเทศของจีน เพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน สมัยพิเศษ พร้อมร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 30 ปีความสัมพันธ์อาเซียน-จีน รวมทั้งประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 6 โดยได้หารือทวิภาคีกับนายหวัง อี้ ทบทวนพัฒนาการและความสำเร็จของความสัมพันธ์อาเซียน-จีนในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข และการฟื้นฟูหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกทั้งได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคและระหว่างประเทศ ซึ่งจีนได้รับความชื่นชมจากอาเซียนที่สนับสนุนการรับมือโควิด-19 โดยเฉพาะเงินสนับสนุน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่สมทบกองทุนอาเซียนเพื่อรับมือกับโควิด-19 รวมถึงสนับสนุนวัคซีนแก่ประเทศต่างๆ ทั้งนี้ นายธานี กล่าวว่า ในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (เอ็มแอลซี) ครั้งที่ 6 ซึ่งประกอบด้วยไทย กัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมียนมา และจีน ได้หารือในหลายประเด็น โดยมีการเน้นย้ำความร่วมมือด้านสาธารณสุขและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโรคโควิด-19 และการพัฒนาที่ยั่งยืน ส่วนการหารือทวิภาคีระหว่างนายดอน และนายหวัง อี้ นั้นได้พูดถึงความร่วมมือ 5 ด้าน คือ 1.ด้านวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19  ซึ่งไทยได้ขอให้จีนสนับสนุนการจัดหาวัคซีน เพื่อให้ไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้ประชาชนร้อยละ 70 ทั้งวัคซีนของบริษัท ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม รวมถึงวัคซีนตัวใหม่ แคนซิโน จากบริษัท แคนซิโน ไบโอโลจิกส์ อิงค์ โดยจีนพร้อมนำมาสนับสนุนให้ไทยหลังจากพัฒนาสำเร็จในอนาคต อีกทั้งยังมี  2.ความเชื่อมโยงระหว่างไทยและจีน ที่จะร่วมกันส่งเสริมความเชื่อมโยงเชิงยุทธศาสตร์ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า (จีบีเอ) และความเชื่อมโยงระหว่างโครงการรถไฟไทย-จีน กับรถไฟจีน-ลาว  3.การพัฒนาที่ยั่งยืนที่สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาประเทศของทั้ง 2 ฝ่าย  4.การฟื้นฟูการเดินทางในช่วงสถานการณ์ของโรคโควิด-19 ซึ่งไทยขอให้จีนพิจารณาคำขอที่ให้นักศึกษาไทยเดินทางกลับไปศึกษาต่อในจีน และให้สายการบินของไทยสามารถกลับไปทำการบินเชิงพาณิชย์ในจีนได้ในช่วงแรกๆ 5.ความร่วมมือในภูมิภาคและอนุภูมิภาค ซึ่งจีนพร้อมสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ของไทยในปี 2564 รวมถึงร่วมกันสนับสนุนให้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรืออาร์เซ็ป (​RCEP) มีผลบังคับใช้โดยเร็ว