วันที่ 10 มิ.ย.64ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในการประชุม เพื่อพิจารณาพ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ.2564 วงเงินไม่เกิน 5 แสนล้านบาท วันที่สอง ได้เริ่มขึ้น โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวปิดท้ายส่วนของพรรคฝ่ายค้าน ว่า การแก้ไขปัญหาโควิด- 19 ด้วยวัคซีน ตนมองว่ากลายเป็นภาระแห่งชาติ ไม่ใช่วาระแห่งชาติ เพราะจากความไม่พร้อมของการบริหารวัคซีน ทำให้โรงพยาบาลต้องเลื่อนนัดฉีดวัคซีน และทำให้หมอ และคนไข้มีความขัดแย้ง ทั้งนี้หากพล.อ.ประยุทธ์ เป็นหมอ จะเป็นหมอที่ทำให้อาการของคนไข้แย่ลง และเสียชีวิต กว่า 1,300 ราย ภายใน 2 เดือน และมีคนไข้สะสมหลักแสนคน
ทั้งนี้พบว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่มีภาวะผู้นำ เพราะการชี้แจงต่อสภาฯ พบการเสียดสี ถากถาง เยาะเย้ย ข่มขู่ทำให้ไม่ไว้ใจ ว่าจะทำหน้าที่ได้ดีต่อไปหรือไม่ และกังวลว่าจะทำให้ประเทศลงเหว หากเป็นวงการแพทย์ต้องถูกถอนใบวิชาชีพทางการแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้ ความบิดเบี้ยวของการตัดสินใจ ทำให้ประเทศเสียหาย
“นายกรัฐมนตรี ไม่มีความมั่นใจต่อการระงับการระบาดของโควิด-19 ได้ จากที่ชี้แจงเมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ซึ่งผมมองว่าสิ่งที่แก้ไขง่าย ต้องใช้เงินกู้เพื่อให้เกิดประโยชน์ เพื่อระงับการระบาดของโควิดภายใน 1 ปี ส่วนงานฟื้นฟูที่เสนอกว่า 4 หมื่นโครงการ เป็นแผนงานปกติ ไม่ใช่แก้ปัญหาและไม่ควรใช้เงินกู้ แต่ควรนำเข้าระบบงบประมาณปกติ ดังนั้นผมเชื่อว่ากู้เงิน 5 แสนล้านบาท จะไม่สามารถระงับยังยั้งการระบาดได้ เพราะความล้มเหลวจากการใช้เงินกู้ก้อนแรก”นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้ประชาชนฟ้องร้องทางละเมิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อให้เป็นตัวอย่าง ว่า เป็น ผู้นำที่ทำให้ประชาชนเสียหาย และเสียชีวิต ซึ่งตนมองว่าเป็นการตัดวงจรชีวิตประชาชน ไร้จริยธรรม ทั้งนี้ตนมองว่ากรณีที่องค์กรได้คนโง่ และขยันเป็นผู้นำ ทำให้องค์กรเสียหาย ตนยืนยันว่า ส.ส.พรรคฝ่ายค้านไม่อนุมัติพ.ร.ก.กู้เงิน5 แสนล้านบาท เพราะ 1.การให้กู้เงินไปก่อนหน้านั้นไม่สามารถระงับยับยั้งควบคุมการระบาด เยียวยาไม่ตรงประเด็น ฟื้นเศรษฐกิจไม่ได้
2.ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทั้งที่ควรใช้เป็นกฎหมายงบประมาณ แทนการออกพ.ร.ก. แต่การบริหารกลับเป็นการบริหารปกติ 3. ผู้นำไม่มีความเหมาะสมเป็นผู้นำ ทั้งนี้ตนต้องการความเชื่อมั่นจากผู้นำ และ 4. การฟื้นประเทศ ยับยั้งวิกฤต โรคระบาด และพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ต้องเปลี่ยนตัวผู้นำ ส่วนที่บอกว่าจะยุบสภา และอีก 1 ปี ขณะนี้มีสัญญาณแก้รัฐธรรมนูญและไทม์ไลน์เป็นไปตามนั้น เพราะคิดว่าได้พวกท่านจะได้ประโยชน์
“หากท่านลาออก ประชาชนจะยกย่องเป็นวีรบุรุษ ดังนั้นขอให้ท่านออกเพื่อบ้านเมือง แต่หากดื้อต่อไป จะเป็นคนที่ประชาชนเกลียดชัง และขนานามว่าเป็นทรราชย์ เพราะท่านทำร้ายและเข่นฆ่าประชาชน ดังนั้นขอให้ออกเพื่อบ้านเพื่อเมือง ” นพ.ชลน่าน กล่าว