วันที่ 10 มิ.ย.64 ดร. กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ได้นำคณะนักท่องเที่ยวที่มาจากจังหวัดสุรินทร์จำนวน 3 คันรถไปชิมทุเรียนในสวน โดยได้พาไปที่สวนซำตารมย์ อำเภอกันทรลักษ์ เพราะเป็นเส้นทางทุเรียนภูเขาไฟตลอดสาย มีบรรยากาศของต้นทุเรียนสองข้างให้ชมหลายสวน คณะได้แวะไปที่สวนอิงธารก่อนเพื่อไปดูว่าเคยแนะนำขอให้จัดสินค้าจากชุมชนพวกโอท๊อปมาจำหน่ายในสวนด้วยเพื่อให้ชุมชนมีรายได้ อย่าขายแต่ทุเรียนอย่างเดียว และไม่ผิดหวังที่พบว่านางทัศนา สมสวย เจ้าของสวนได้ให้ชุมชนมาจำหน่ายสินค้าโอท้อปด้วย เช่นมีผลไม้ทอดสูญญากาศ จาก Little bright ไอศครีมเค้กทุเรียน เรียนหมอนทองทอดกรอบจากสวนสามสาว มีน้ำยาล้างจานสูตรมะกรูดเข้มข้น "แบ่งปัน" Line ID Ninlaya Nachaithong มีเสื้อย้อมสีลาวาทุเรียนภูเขาไฟ ฯ
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ กล่าวต่อว่า ได้ไปดูตลาดทุเรียนที่สวนอื่นๆ ที่ยึดหลัก social Distancing ใส่หน้ากากตลอดเวลา มีเจลแอลกอฮอล์ ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ที่สวน” สามพี่น้อง “ เจ้าของสวน คือนางทัศนียา ศิลชาติ อายุ 56 ปี อยู่ที่ 232 หมู่ 7 ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ ตนรู้สึกชื่นชมที่ลูกสามคนของนางทัศนียา เป็นคนรุ่นใหม่ที่มาช่วยพ่อแม่ขายทุเรียนทางออนไลน์ น.ส.วิไลวรรณ ศิลชาติ ลูกสาวคนโตบอกว่า พวกตนสามพี่น้องมาช่วยพ่อแม่ขายทุเรียนเมื่อ ปี 62 เพราะมีความรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีซึ่งพ่อแม่ไม่ถนัด ถ้าเราไม่ช่วยก็จะสู้คนอื่นไม่ได้ ได้ตัดปัญหาพ่อค้าคนกลางออกไปโดยเปิดหน้าสวนขายเอง ต่อมาปี 63 เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในสวน โดยให้ทุกคนเก็บเงาะ มะม่วง มังคุด ทาน จัดเป็นบุฟเฟ่ต์ ขายหัวละ 59 บาท ซึ่งเสาร์-อาทิตย์จะมีนักท่องเที่ยวมาจำนวน 200- 300 คน ธุรกิจดีมาก แต่ปีนี้มีผลกระทบจากโควิด-19 อีกทั้งผลผลิตก็ไม่เต็มที่ จึงไม่ได้เปิดขายบุฟเฟ่ต์เหมือนเดิม เพราะทางการก็ห้ามมีคนชุมนุมจำนวนมากจะเป็นการแพร่ระบาดของโรค แต่แม้ไม่ขายทัวร์บุฟเฟ่ต์ก็รู้สึกว่ายังดีที่ทุเรียนภูเขาไฟขายดีมาก ที่สวนสามพี่น้องมีทุเรียนและเงาะจำนวน 25 ไร่ ยอดขายทุเรียนภูเขาไฟวันละ 1,000 กว่ากิโล แม้มีโควิด-19 ยอดขายก็ยังไม่ตก ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ขายดีมากส่งแทบไม่ทัน ต้องถือว่าทุเรียนภูเขาไฟมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่โดดเด่นทำให้คนอยากบริโภค พวกเราผู้ขายต้องสร้างความมั่นใจในคุณภาพสินค้าให้กับผู้บริโภค ซึ่งสวนสามพี่น้องยังยืนยันขายราคาเดิมที่กิโลละ180 บาท แม้เกรดดีพรีเมี่ยมก็จะไม่ขึ้นราคา เพราะอยากให้นักท่องเที่ยวได้ทานทุเรียนภูเขาไฟที่มีคุณภาพราคาซื้อหาได้ จะทำให้ทุกคนอยากมาทานอีกในปีต่อๆไป เพราะในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้หากทุกสวนรักษาคุณภาพและราคามาตรฐานจะทำให้มีรายได้ที่ยั่งยืนต่อไป
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ กล่าวต่อว่า ได้ไปดูตลาดทุเรียนที่สวนอื่นๆ ที่ยึดหลัก social Distancing ใส่หน้ากากตลอดเวลา มีเจลแอลกอฮอล์ ล้างมือ และเว้นระยะห่าง ที่สวน” สามพี่น้อง “ เจ้าของสวน คือนางทัศนียา ศิลชาติ อายุ 56 ปี อยู่ที่ 232 หมู่ 7 ต.ตระกาจ อ.กันทรลักษ์ ตนรู้สึกชื่นชมที่ลูกสามคนของนางทัศนียา เป็นคนรุ่นใหม่ที่มาช่วยพ่อแม่ขายทุเรียนทางออนไลน์ น.ส.วิไลวรรณ ศิลชาติ ลูกสาวคนโตบอกว่า พวกตนสามพี่น้องมาช่วยพ่อแม่ขายทุเรียนเมื่อ ปี 62 เพราะมีความรู้ในเรื่องของเทคโนโลยีซึ่งพ่อแม่ไม่ถนัด ถ้าเราไม่ช่วยก็จะสู้คนอื่นไม่ได้ ได้ตัดปัญหาพ่อค้าคนกลางออกไปโดยเปิดหน้าสวนขายเอง ต่อมาปี 63 เริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในสวน โดยให้ทุกคนเก็บเงาะ มะม่วง มังคุด ทาน จัดเป็นบุฟเฟ่ต์ ขายหัวละ 59 บาท ซึ่งเสาร์-อาทิตย์จะมีนักท่องเที่ยวมาจำนวน 200- 300 คน ธุรกิจดีมาก แต่ปีนี้มีผลกระทบจากโควิด-19 อีกทั้งผลผลิตก็ไม่เต็มที่ จึงไม่ได้เปิดขายบุฟเฟ่ต์เหมือนเดิม เพราะทางการก็ห้ามมีคนชุมนุมจำนวนมากจะเป็นการแพร่ระบาดของโรค แต่แม้ไม่ขายทัวร์บุฟเฟ่ต์ก็รู้สึกว่ายังดีที่ทุเรียนภูเขาไฟขายดีมาก ที่สวนสามพี่น้องมีทุเรียนและเงาะจำนวน 25 ไร่ ยอดขายทุเรียนภูเขาไฟวันละ 1,000 กว่ากิโล แม้มีโควิด-19 ยอดขายก็ยังไม่ตก ทั้งหน้าร้านและออนไลน์ขายดีมากส่งแทบไม่ทัน ต้องถือว่าทุเรียนภูเขาไฟมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่โดดเด่นทำให้คนอยากบริโภค พวกเราผู้ขายต้องสร้างความมั่นใจในคุณภาพสินค้าให้กับผู้บริโภค ซึ่งสวนสามพี่น้องยังยืนยันขายราคาเดิมที่กิโลละ180 บาท แม้เกรดดีพรีเมี่ยมก็จะไม่ขึ้นราคา เพราะอยากให้นักท่องเที่ยวได้ทานทุเรียนภูเขาไฟที่มีคุณภาพราคาซื้อหาได้ จะทำให้ทุกคนอยากมาทานอีกในปีต่อๆไป เพราะในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้หากทุกสวนรักษาคุณภาพและราคามาตรฐานจะทำให้มีรายได้ที่ยั่งยืนต่อไป