เวลา 15.00 น.  (9 มิ.ย. 64)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายยงยุทธ  สงบวาจา  อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140  หมู่ 4  ต.ตะนาวศรี  อ.สวนผึ้ง  จ.ราชบุรี  ได้เข้าพบ พ.ต.ท.ชาติชาย   ดอนชัย  รองผกก.ป.สภ.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง  จ.ราชบุรี  เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่นำข้อมูลจากบัตรประชาชนของตนเอง แล้วไปใช้เงินในโครงการเราชนะ รอบที่สองที่ทางรัฐบาลได้โอนให้อาทิตย์ละ 1000  บาท จำนวน 2 อาทิตย์ รวมเป็นเงิน 2000 บาท หายไปหมดกลายเป็นศูนย์ไม่เหลือให้ใช้สักบาท             นายยงยุทธ  ได้ให้ข้อมูลว่า ตนได้รับเงินในโครงการเราชนะ โดยผ่านทางบัตรประชาชน  เนื่องจากไม่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ในรอบแรกที่ได้รับจำนวน 7,000 บาท ก็ไม่มีปัญหา  เวลาใช้ก็จะนำบัตรประชาชนไปให้ทางร้านค้าที่ซื้อของแสกน ซึ่งก็ใช้เงินหมดไปแล้ว  ต่อมาในรอบสองนั้นมีเงินโอนเข้ามาอาทิตย์ละ 1000 บาท  โดยครั้งแรกวันที่ 21 พ.ค.  และวันที่ 28 พ.ค.  จำนวน 2 อาทิตย์  ซึ่งตนก็ยังไม่ได้ใช้เพราะจะรวบรวมเป็นก้อนเพื่อนำมาซื้อข้าวสาร จนเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.  ตนได้ให้ภรรยานำบัตรประชาชนมาซื้อของที่ร้านค้าหน้าที่ว่าการอำเภอสวนผึ้ง  แต่เมื่อร้านค้าแสกนบัตรก็บอกว่าเงินโครงการเราชนะยังไม่เข้ามา  ทั้งที่คนอื่นนั้นได้หมดแล้ว  ภรรยาของตนจึงต้องจ่ายเงินสดไป และทางร้านก็บอกว่า ถ้ามีเงินเข้าบัญชีที่ร้านก็จะคืนเงินให้  ต่อมาในวันที่ 7 มิ.ย.  ตนจึงนำบัตรมาให้ร้านแสกนอีก  ก็ยังไม่มีเงินเข้า  ลูกสาวจึงได้ค้นหาเบอร์โทรศัพท์ธนาคารกรุงไทย  สำนักงานใหญ่  เพื่อสอบถามข้อมูลว่าทำไมไม่มีเงินเข้ามา  ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า มีเงินเข้ามาแล้วทั้งสองงวด  และถูกใช้ไปหมดแล้ว  เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเงินถูกในช่วงเช้าวันที่ 21 พ.ค.  ที่มีเงินเข้าในวันแรกและช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ค.  ที่ร้านค้า  อ.เมือง  จ.สุพรรณบุรี  ตนจึงเชื่อว่าน่าจะถูกสวมสิทธิ์แล้วเอาเงินไป  จึงได้มาแจ้งความที่ สภ.สวนผึ้ง  เพื่อให้ช่วยติดตามคนที่นำข้อมูลไปใช้จนสามารถนำเงินในโครงการเราชนะไปใช้ได้  ทั้งที่บัตรประชาชนนั้นก็อยู่กับตนเองตลอด  แม้ว่าเงินจะไม่มากแต่ก็อยากให้เป็นอุทาหรณ์ให้กับโครงการที่รัฐบาลช่วย  แม้แต่เงินน้อยนิดก็ยังมีพวกมิจฉาชีพมาสวมสิทธิ์ในยามที่วิกฤติที่มีโรคแพร่ระบาด  ซึ่งไม่สามารถทำอะไรและต้องใช้เงินในโครงการนี้ ซึ่งเป็นเงินเล็กๆน้อยๆก็ยังที่จะมาเอา  จึงอยากจะฝากให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องว่า โครงการนี้มีจุดอ่อนตรงไหนที่คนอื่นสามารถที่จะเจาะเอาข้อมูลไปใช้ได้ โดยที่เจ้าของข้อมูลไม่รู้เรื่องเลย  ทั้งที่บัตรประชาชนและรหัสนั้นก็อยู่กับตัว  แต่คนอื่นกลับนำไปใช้ได้เหมือนเงินสด   ซึ่งตนนั้นเสียความรู้สึกว่าอุตส่าห์เก็บเอาไว้เป็นก้อนเพื่อที่จะนำไปซื้อของใช้  แต่กลับไม่พบเงินสักบาท  ซึ่งทางธนาคารก็เลยแนะนำให้ไปแจ้งความดำเนินคดี  จึงได้มาในวันนี้                   พ.ต.ท.ชาติชาย   ดอนชัย  รองผกก.ป.สภ.สวนผึ้ง  จึงได้ให้นายยงยุทธ  นั้นไปแจ้งความกับ ร.ต.ท.พงศกร  กุศลอภิบาล  ร้อยเวร สภ.สวนผึ้ง  จากนั้นทางพนักงานสอบสวนจะส่งให้กับทางผู้บังคับบัญชาได้พิจารณาในการสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดต่อไป