นางยุพวรรณ์ สิทธิคงศักดิ์ ผู้ว่าการไลออนส์สากลภาค 310 อี ปีบริหาร 2563-2564 กล่าวถึงการประชุมใหญ่ไลออนส์สากลภาครวม 310 ประเทศไทย ครั้งที่ 55 จังหวัดนครราชสีมา เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า เป็นการจัดประชุมครั้งประวัติศาสตร์ เพราะเป็นการประชุมใหญ่ครั้งแรกที่มีระบบการจัดการแบบ New Normal และปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 อย่างเคร่งครัด และถือเป็นครั้งแรกของสโมสรไลออนส์ ที่ภาครัฐ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมาและทีเส็บให้การสนับสนุน และร่วมมือกันในการจัดประชุมใหญ่ครั้งสำคัญ ซึ่งปกติจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อสรุปการทำงานของสภาภาครวมและเลือกตั้งผู้นำสูงสุดของแต่ละภาค โดยจะหมุนเวียนการเป็นเจ้าภาพไปตามภาครองต่างๆ 6 ภาค ทั่วประเทศ และมีสมาชิกไลออนส์จำนวน 2,250 คนเข้าร่วมงาน
โดยงานประชุมใหญ่ไลออนส์สากลภาครวม 310 ครั้งนี้ ถือเป็นการจัดงานไมซ์รูปแบบไฮบริด อีเวนต์ ที่ยึดแนวทางปฏิบัติการจัดงานไมซ์ที่ถูกสุขอนามัยตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่ทางราชการกำหนด สามารถจัดกิจกรรมไมซ์ได้อย่างปลอดภัย ปลอดโรค มีจำนวนผู้เข้าร่วมชมงานผ่านระบบออนไลน์ 2,318 คน และจำนวนผู้เข้าร่วมงานจริง 474 คน กระจายสถานที่พำนัก ณ โรงแรมที่พักจำนวน 3 แห่ง และสลับเวลาการจัดงานในพื้นที่จัดงานตลอดระยะเวลา 3 วัน ตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้สโมสรไลออนส์ได้ร่วมจัดประชุมเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ รวมทั้งได้แสดงศักยภาพของจังหวัดนครราชสีมาในการเป็นเมืองไมซ์ของประเทศ ถือเป็นประสบการณ์และเรียนรู้ร่วมกัน และพร้อมที่จะส่งต่อรูปแบบ การจัดประชุมภายใต้วิถีใหม่ครั้งนี้ ในการมีส่วนร่วม และการบริหารจัดการ ให้กับเจ้าภาพการจัดประชุมใหญ่ฯ ครั้งที่ 56 จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
ขณะที่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาในช่วงเวลาดังกล่าว กล่าวว่า การจัดงานประชุมใหญ่ไลออนส์สากล ภาครวม 310 ประเทศไทย ครั้งที่ 55 ที่ผ่านมาได้เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นศักยภาพความพร้อมของเมืองโคราชที่จะรองรับการจัดประชุมไมซ์อย่างเต็มรูปแบบ มีสถานที่สามารถรองรับการจัดประชุมสัมมนา หรือนิทรรศการขนาดใหญ่ กระจายอยู่หลายแห่ง สถานที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งภาคอีสาน มีวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับชาติ สามารถรองรับการจัดกิจกรรมไมซ์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมีบุคลากรในจังหวัดที่พร้อมจะให้บริการด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี โดยเฉพาะการจัดงานประชุมใหญ่ไลออนส์สากล ภาครวม 310 ประเทศไทย ครั้งที่ 55 มีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทุกอย่างผ่านไปด้วยความเรียบร้อยด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อจังหวัดนครราชสีมา และก่อให้เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นอย่างดี
ด้านนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บสนับสนุนการจัดประชุมใหญ่ไลออนส์ ในรูปแบบไฮบริด คือแบบออนไลน์ผสมผสานกับการจัดงานแบบปกติ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ทางสโมสรไลออนส์เลือกใช้สถานที่จัดงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทยและมีการจัดงานที่สอดคล้องตามแนวปฏิบัติเบื้องต้นด้านการจัดงานอย่างยั่งยืนของทีเส็บ อาทิ การลงทะเบียนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ควบคุมอุณหภูมิในห้องจัดงานทั้งหมดให้ไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส งดการใช้โฟมและดอกไม้สด ไม่ใช้ขวดหรือหลอดพลาสติก ครอบคลุมไปถึงการเลือกอาหารและเครื่องดื่มออร์แกนิกและของที่ระลึกที่ผลิตโดยชุมชนในพื้นที่
พร้อมกันนี้ทาง ทีเส็บได้นำเทคโนโลยีออนไลน์ไลฟ์สตรีมมิง มาใช้ร่วมกับการจัดประชุมแบบปกติ โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดห้องประชุมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีเปิดงานไม่เกิน 40 คน ภายในพื้นที่ห้องจัดงาน 400 ตารางเมตร สามารถเว้นระยะห่างจากเวทีได้เกิน 10 เมตร ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ อสม. และอาสาสมัคร ดูแลคัดกรองผู้เข้าร่วมงานที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งการจัดประชุมรูปแบบใหม่นอกจากจะบรรลุวัตถุประสงค์ของไลออนส์แล้ว ยังสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในจังหวัดโคราชประมาณ 9 ล้านบาทกับผลต่อเนื่องอื่นๆ อีกประมาณ 6.7 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ภูมิภาค สร้างรายได้ให้กับโรงแรม ร้านค้าและสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่จัดงาน ตามนโยบายโครงการ เปิดเมืองปลอดภัย จัดงานไมซ์มั่นใจ ด้วยมาตรฐาน
โดยงานประชุมใหญ่ไลออนส์สากลภาครวม 310 ครั้งนี้ ถือเป็นการจัดงานไมซ์รูปแบบไฮบริด อีเวนต์ ที่ยึดแนวทางปฏิบัติการจัดงานไมซ์ที่ถูกสุขอนามัยตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่ทางราชการกำหนด สามารถจัดกิจกรรมไมซ์ได้อย่างปลอดภัย ปลอดโรค มีจำนวนผู้เข้าร่วมชมงานผ่านระบบออนไลน์ 2,318 คน และจำนวนผู้เข้าร่วมงานจริง 474 คน กระจายสถานที่พำนัก ณ โรงแรมที่พักจำนวน 3 แห่ง และสลับเวลาการจัดงานในพื้นที่จัดงานตลอดระยะเวลา 3 วัน ตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้สโมสรไลออนส์ได้ร่วมจัดประชุมเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ รวมทั้งได้แสดงศักยภาพของจังหวัดนครราชสีมาในการเป็นเมืองไมซ์ของประเทศ ถือเป็นประสบการณ์และเรียนรู้ร่วมกัน และพร้อมที่จะส่งต่อรูปแบบ การจัดประชุมภายใต้วิถีใหม่ครั้งนี้ ในการมีส่วนร่วม และการบริหารจัดการ ให้กับเจ้าภาพการจัดประชุมใหญ่ฯ ครั้งที่ 56 จังหวัดเชียงใหม่ต่อไป
ขณะที่ นายวิเชียร จันทรโณทัย ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาในช่วงเวลาดังกล่าว กล่าวว่า การจัดงานประชุมใหญ่ไลออนส์สากล ภาครวม 310 ประเทศไทย ครั้งที่ 55 ที่ผ่านมาได้เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นศักยภาพความพร้อมของเมืองโคราชที่จะรองรับการจัดประชุมไมซ์อย่างเต็มรูปแบบ มีสถานที่สามารถรองรับการจัดประชุมสัมมนา หรือนิทรรศการขนาดใหญ่ กระจายอยู่หลายแห่ง สถานที่พัก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งภาคอีสาน มีวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวระดับชาติ สามารถรองรับการจัดกิจกรรมไมซ์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมีบุคลากรในจังหวัดที่พร้อมจะให้บริการด้วยอัธยาศัยไมตรีอันดี โดยเฉพาะการจัดงานประชุมใหญ่ไลออนส์สากล ภาครวม 310 ประเทศไทย ครั้งที่ 55 มีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยทุกอย่างผ่านไปด้วยความเรียบร้อยด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อจังหวัดนครราชสีมา และก่อให้เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจในพื้นที่เป็นอย่างดี
ด้านนายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ทีเส็บสนับสนุนการจัดประชุมใหญ่ไลออนส์ ในรูปแบบไฮบริด คือแบบออนไลน์ผสมผสานกับการจัดงานแบบปกติ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ ทางสโมสรไลออนส์เลือกใช้สถานที่จัดงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทยและมีการจัดงานที่สอดคล้องตามแนวปฏิบัติเบื้องต้นด้านการจัดงานอย่างยั่งยืนของทีเส็บ อาทิ การลงทะเบียนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ควบคุมอุณหภูมิในห้องจัดงานทั้งหมดให้ไม่ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส งดการใช้โฟมและดอกไม้สด ไม่ใช้ขวดหรือหลอดพลาสติก ครอบคลุมไปถึงการเลือกอาหารและเครื่องดื่มออร์แกนิกและของที่ระลึกที่ผลิตโดยชุมชนในพื้นที่
พร้อมกันนี้ทาง ทีเส็บได้นำเทคโนโลยีออนไลน์ไลฟ์สตรีมมิง มาใช้ร่วมกับการจัดประชุมแบบปกติ โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดห้องประชุมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีเปิดงานไม่เกิน 40 คน ภายในพื้นที่ห้องจัดงาน 400 ตารางเมตร สามารถเว้นระยะห่างจากเวทีได้เกิน 10 เมตร ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ อสม. และอาสาสมัคร ดูแลคัดกรองผู้เข้าร่วมงานที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งการจัดประชุมรูปแบบใหม่นอกจากจะบรรลุวัตถุประสงค์ของไลออนส์แล้ว ยังสามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในจังหวัดโคราชประมาณ 9 ล้านบาทกับผลต่อเนื่องอื่นๆ อีกประมาณ 6.7 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ภูมิภาค สร้างรายได้ให้กับโรงแรม ร้านค้าและสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่จัดงาน ตามนโยบายโครงการ เปิดเมืองปลอดภัย จัดงานไมซ์มั่นใจ ด้วยมาตรฐาน