ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท การอภิปรายของฝ่ายรัฐบาลส่วนใหญ่ชื่นชมนายกฯที่กล้าตัดสินใจกู้เงินเพื่อมาแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนสู้กับโควิด ขณะที่ส.ส.ฝ่ายค้านยังยืนยันให้รัฐบาลถอนพ.ร.ก. และนำกลับไปทบทวนและเสนอเป็น พระราชบัญญัติงบประมาณ และเรียกร้องให้เปลี่ยนตัว นายกรัฐมนตรี เพราะไม่ไว้วางใจฐานะผู้ใช้เงิน ต่อมานายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่า สนับสนุน พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท แต่ได้เสนอแนะไปยังหน่วยงานของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปรับวิธีการใช้เงินเพื่อแก้ปัญหา โดยไม่ใช่การสาธารณสุขบังหน้า และเป็นข้ออ้างการกู้เงิน ทั้งนี้การกู้เงินในรอบ 1 ล้านล้านบาท พบว่าจัดสรรให้ด้านสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้านบาท และรอบล่าสุดจัดสรรให้ไม่กี่หมื่นล้านบาท รวมเป็นเงินที่ให้กับสาธารณสุขเพียง 6% ดังนั้นต้องปรับวิธีการแก้ปัญหาโควิด โดยตั้งต้นแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ขณะที่การเยียวยาต้องไม่ใช่การแจกเงิน แต่ต้องสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชน ขณะที่การกู้เงินนั้นต้องเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่ออนาคตให้ประเทศ “การกู้เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด แต่ต้องกู้หน้านายกรัฐมนตรี รัฐบาลชุดนี้ และสำคัญต้องกู้ความเชื่อมั่น หากกู้มาไม่ได้ต่อให้กู้เงิน หลักล้านล้านบาทไม่สามารถแก้ไขปัญหาครั้งนี้ได้ หากตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ติดตามการใช้จ่ายเงิน ยินดีทำเพื่อให้การกู้เงินรอบนี้ไม่ซ้ำกับการกู้เงิน 1ล้านล้านบาท” นายกรวีร์ อภิปราย