แม่และพี่ชายชาว อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เรียกร้องให้ ตร.เร่งรัดจับกุมแก๊งรุ่นพี่โหดก่อนเผาศพ “น้องปลื้ม” ครอบครัวพร้อมอโหสิกรรมและให้มากราบขอขมาศพน้องได้ แต่เรื่องคดีให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ทั้งวอนหยุดพฤติกรรมรับน้องโหดและลงโทษรุนแรงไม่อยากให้ใครต้องตกเป็นเหยื่อสูญเสียชีวิตอีก ยันไม่ติดใจสถาบันเพราะไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำของ นศ.แค่บางกลุ่ม (9 มิ.ย.64) จากกรณีที่นางมนัสนันท์ อายุ 57 ปี ชาว ต.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ มารดาของนายวีรพัฒน์ หรือน้องปลื้ม อายุ 22 ปี นักศึกษาช่าง ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยชื่อดัง ย่านปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกชายถูกรุ่นพี่สถาบันเดียวกันรุมทำร้ายด้วยการเวียนเตะหน้าอก เพื่อลงโทษที่ไม่เชื่อฟัง จนอาการสาหัสถูกหามส่ง รพ. นอนรักษาตัวอยู่ 8 วันแล้วเสียชีวิต สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ล่าสุด นางมนัสนันท์ พร้อมด้วยนายวีรพงษ์ แม่และพี่ชายของน้องปลื้ม ได้ออกมาเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน ได้เร่งทำการจับกุมแก๊งรุ่นพี่ทำร้ายน้องปลื้ม มาดำเนินคดีตามกฎหมายก่อนที่จะฌาปนกิจศพของน้องในวันพรุ่งนี้ 10 มิ.ย.2564 เพื่อให้น้องนอนตายตาหลับ เพราะทางครอบครัวได้แจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.แล้ว และขณะนี้ทราบว่ารุ่นพี่ 12 คน ได้ออกมายอมรับสารภาพว่าได้ทำร้ายน้องจริง และทางสถาบันก็มีการเสนอชื่อให้อธิการบดีไล่ทั้งหมดออก เพื่อเป็นการลงโทษขั้นสูงสุดตามระเบียบ ก็อยากให้ทางคดีคืบหน้าด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อความเป็นธรรมให้กับครอบครัว และ หากรุ่นพี่ที่ทำร้ายน้องมีความเป็นลูกผู้ชายและมีจิตสำนึกก็ควรจะมากราบขอขมาศพน้อง ซึ่งทางครอบครัวก็พร้อมอโหสิกรรมให้แต่เรื่องคดีก็ให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย แม่ และพี่ชาย ยังขอให้เคสของน้องปลื้ม เป็นกรณีสุดท้ายที่ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของรุ่นพี่ อยากให้หยุดวัฒนธรรมการรับน้องหรือพฤติกรรมการลงโทษที่รุนแรง ไม่อยากให้ลูกหลานใครต้องมาตกเป็นเหยื่อสูญเสียแบบนี้อีก เพราะไม่มีอะไรมาทดแทนได้ ควรจะทำกิจกรรมรับน้องรูปแบบอื่น ที่สร้างสรรค์และเสริมสร้างความสามัคคีระหว่างรุนพี่รุ่นน้องมากกว่า อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวก็ไม่ได้ติดใจทางสถาบัน เพราะไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำของ นศ.เพียงบางกลุ่มเท่านั้น แต่การกระทำของ นศ.บางคนต่างหากที่จะทำให้สถาบันเสียหาย ซึ่งหากเป็นไปได้ก็อยากเสนอให้ทางมหาวิทยาลัย ทำสัญญากับผู้ปกครองที่จะส่งบุตรหลานเข้าไปศึกษา ว่าจะไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ปกครองเกิดความมั่นใจ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง และเด็กๆ หลายคนใฝ่ฝันอยากเข้าไปศึกษาในสถาบันแห่งนี้ เช่นเดียวกับน้องปลื้ม ที่ฝันอยากเข้าสถาบันแห่งนี้มาก แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะต้องมาจบชีวิตลงแบบี้ ซึ่งเบื้องต้น มีเพียงทางมหาวิทยาลัยมาร่วมเป็นเจ้าภาพสวดอภิธรรมศพ และมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวเบื้องต้น แต่ยังไม่มีหน่วยงานอื่นมาดูแลช่วยเหลือในกรณีอื่นๆ แต่อย่างใด