ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน ต่อมาเวลา 10.40 น. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กฎหมายดังกล่าวคล้ายกับตีเช็คเปล่า เพื่อให้นายกรัฐมนตรีนำเงินไปใช้จ่าย โดยไม่มีรายละเอียด แม้จะมีแผนการใช้เงิน แต่เมื่อเทียบกับการกู้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน วงเงิน 1ล้านบาท เมื่อปี 2563 พบความล้มเหลว แม้มีเงินกู้ แต่ไม่สามารถบริหารจัดการการระบาดของโควิด-19 ได้ และทำให้ผู้ติดเชื้อต้องเสียชีวิต ซึ่งการเสนอขอเงินกู้ จาก พ.ร.ก.รอบที่ผ่านมา อ้างถึงความจำเป็นเร่งด่วน แต่กลับพบว่าการใช้ไม่มีประสิทธิภาพ ปี 2563 พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท จัดสรรให้กับ ระบบสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้านบาท และปี 2564 พบการเบิกจ่ายไปเพียง 26% หรือ 1.1หมื่นล้านบาทเท่านั้น และกรณีที่ระบุว่านำเงินเพื่อเป็นเบี้ยเสี่ยงภัยบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า แต่กลับพบว่า มีอสม. ขอเงินนักการเมือง เช่น จ.นครพนม พบว่านายศุภชัย โพธิสุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และรองประธานสภาฯ คนที่สอง ต้องนำเงินส่วนตัว 7 ล้านบาท เพื่อซื้อประกันภัย, ด้านเยียวยา 7 แสนล้านบาท เบิกจ่าย 6 แสนล้านบาท , การฟื้นฟูเศรษฐกิจแลสังคม วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท แต่พบการเบิกจ่ายเพียง 28% ดังนั้นเมื่อรวมยอดการเบิกจ่ายจากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท พบว่าเบิกจ่าย รวม 7.7 แสนล้านบาท มียอดเบิกจ่ายเหลือ 2.3 ล้านบาท
“ผมขอให้รัฐบาล เปลี่ยนจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้าน ไปเป็นพ.ร.บ.งบประมาณกลางปี 2564 วงเงิน 5 แสนนล้านบาทแทน เพื่อให้สภาฯตรวจสอบและเกิดความคุ้มค่ากับการกู้เงินที่ต้องเสียดอกเบี้ย เพราะตนมองว่า พ.ร.ก. ไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน และการติดเชื้อโควิด-19 ที่ระบาดตั้งแต่ต้นปี 2563 ไม่มีทางยุติลงภายในปีนี้ และผมเชื่อด้วยว่ารัฐบาลจะใช้เงินกู้ไม่ทันปีงบประมาณแน่นอน” นายยุทธพงศ์ กล่าว และว่า มติครม. อนุมัติงบกลางฯ กว่า 426.47 ล้านบาท เพื่อซื้อเครื่องจักรกล รองรับปัญหาอุทกภัย ภัยแล้ง คือ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เร็วขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิกส์ ซึ่งตอนนี้เป็นหน้าฝน ไม่ได้แล้ง แต่รัฐบาลใช้จ่ายงบกลางที่ไม่จำเป็น แทนที่จะนำไปใช้ซื้อวัคซีน ขณะเดียวกันกลับใช้เงินกู้ เพื่อแก้ปัญหา ดังนั้นตนไม่สามารถรับหลักการดังกล่าวได้
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายสนับสนุน พ.ร.ก.กู้เงินและชื่นชมการตัดสินใจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ต่อการตัดสินใจกู้เงินเพื่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองคัดค้าน ตนเชื่อว่าหากรัฐบาลช่วยเหลือประชาชนได้มาก จะทำให้พรรคการเมืองเสียประโยชน์ ดังนั้นไม่ควรใช้กรณีดังกล่าวมาเล่นการเมือง และหากจะออกเป็นพ.ร.บ.งบฯ จะล่าช้า เพราะต้องรอการอนุมัติใช้ ช่วงปลายปี