วันที่ 8 มิถุนายน 2564 เวลา 17.50 น. ที่พรรคภูมิใจไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการให้กระทรวงคมนาคมชี้แจงโครงการรถไฟฟ้าทางคู่สายเหนือและสายอีสาน ว่า โครงการนี้กระทรวงคมนาคมโดยการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการตามระเบียบพัสดุ โดยผ่านการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หรืออี-บิดดิ้ง ซึ่งตนได้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดไปแล้วในการประชุมสภาฯที่ผ่านมา ขณะที่การรถไฟฯ ก็ได้จัดทำคลับเฮ้าส์เชิญบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ รวมถึงองค์กรต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ และคณะอธิการบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ตัวแทนสื่อมวลชน และทีดีอาร์ไอเข้ามาร่วมพูดคุยด้วย ซึ่งโครงการนี้ได้ทำการศึกษามาตั้งแต่ปี 2555 และราคากลางอนุมัติตั้งแต่ปี 2561 และมีการปรับปรุงอีกครั้งในช่วงปลายปี 2563
ทั้งนี้ นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นทราบว่าราคาพัสดุก่อสร้างมีราคาสูงขึ้นมาอีก 50% และที่ผ่านมาผู้ว่าจ้างก็ได้มีการยื่นเรื่องมาที่กระทรวงคมนาคมขอให้พิจารณาปรับราคากลาง แต่โครงการนี้ไม่มีการปรับราคาอะไรเลย โดยยังยืนราคาตามที่มีการศึกษาไว้และดำเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมาย รวมถึงมีคณะกรรมการจริยธรรมเข้ามาร่วมด้วย อีกทั้งการทำอี-บิดดิ้งเป็นเรื่องของกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังเป็นผู้ดำเนินการ ทางการรถไฟฯ มีหน้าที่เพียงแค่รับผลการคำนวณมา
อีกทั้ง นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึงประเด็นราคาที่เสนอมาใกล้เคียงกันนั้น ถ้ามีคนสงสัยต้องไปดูในส่วนของผู้รับจ้าง ว่า ทำไมจึงเสนอราคาใกล้เคียงกัน ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่สามารถสอบถามกันได้อยู่แล้ว และเรื่องการประมูลแบบอี-บิดดิ้งไม่ได้มีเฉพาะการรถไฟ เพราะหน่วยงานในกระทรวงคมนาคมหลายกรมก็ใช้วิธีนี้ทั้งนั้น รวมถึงกระทรวงอื่นๆ ด้วยเพราะเป็นระบบที่คิดว่าดีที่สุดในการประมูลงานของประเทศไทยในขณะนี้
"แนวนโยบายของผมได้กำชับว่าจากนี้จะดำเนินการอะไรนอกจากการทำตามระเบียบที่ทำทีโออาร์ขึ้นมารับฟังความคิดเห็นหรือที่เรียกว่าการทำประชาพิจารณ์จะต้องมีการทำคลับเฮ้าส์ด้วย โดยเชิญผู้สงสัยทั้งหมดที่ชอบตั้งคำถามอยู่เสมอเข้ามาร่วมพูดคุยด้วย ยืนยันว่าการรถไฟทำตามระเบียบ ส่วนจะมีการตรวจสอบอะไรถือเป็นเรื่องปกติ สามารถตรวจสอบได้ ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรที่จะทำให้โครงการนี้มีปัญหาที่จะไม่สามารถดำเนินการได้” นายศักดิ์สยาม กล่าว