จังหวัดเชียงใหม่ ผ่อนคลายมาตรการให้กิจการบางประเภท แต่ยังคงให้ปิดสถานที่บางแห่งเป็นการชั่วคราว เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่บาดของโรค Covid-19 ต่อไป
วันนี้ (8 มิ.ย. 64) ที่ ศูนย์บัญชาการสถานการณ์การระบาดโรค Covid-19 จังหวัดเชียงใหม่ นายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ระลอกเดือนเมษายนจังหวัดเชียงใหม่ประจำวัน
ดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ เปิดเผยว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 2 ราย ซึ่งเป็นวันที่ 7 ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 5 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมเป็น 4,106 ราย รักษาหายแล้ว 4,016 ราย และยังคงมีผู้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจำนวน 64 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลสนาม 3 ราย โรงพยาบาลรัฐ 53 ราย โรงพยาบาลเอกชน 7 ราย และโรงพยาบาลต่างจังหวัด 1 ราย โดยในวันนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมของจังหวัดเชียงใหม่ยังอยู่ที่ 26 ราย ขณะที่กลุ่มผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่นั้น แยกเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย (สีเขียว) 34 ราย อาการปานกลาง (สีเหลือง) 18 ราย อาการค่อนข้างหนัก (สีส้ม) 10 ราย และผู้ป่วยอาการหนัก (สีแดง) 2 ราย
จากสถานการณ์ที่ดีขึ้นดังกล่าว ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือรักษามาตรการป้องกันโรคจนสถานการณ์ดีขึ้น ดังนั้นทางคณะกรรมการฯ จึงมีมติผ่อนคลายให้กิจกรรมบางอย่างสามารถดำเนินการได้ เพื่อเป็นของขวัญสำหรับพี่น้องประชาชน แต่ยังคงมีบางกิจกรรมที่ยังไม่สามารถผ่อนคลายได้ โดยคณะกรรมการฯ จะเชิญผู้ประกอบการมาประชุมรหาแนวทางร่วมกันเร็วๆนี้
สำหรับการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเมื่อวานนี้ (7 มิ.ย. 64) ทำการตรวจไปจำนวน 866 ราย พบผู้มีผลบวก 2 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.23 โดย 2 รายใหม่ CM 4188 เป็นภรรยาของ CM 4187 และอีกหนึ่งราย CM 4189 เป็นหลานฝาแฝด และอีกคน CM 4190 ซึ่งจะเป็นยอดรายงานของวันพรุ่งนี้ โดยผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวได้มีการตรวจพบเมื่อบ่ายวันนี้ โดยไทม์ไลน์จะคล้ายกัน เนื่องจากสองรายนี้เป็นการติดโดยการสัมผัสกันในครอบครัว และมีผู้สัมผัสทั้งหมดจำนวน 29 ราย แบ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 12 ราย ผลบวก 2 ราย ผลลบ 10 ราย เสี่ยงต่ำ 17 ราย ตรวจทั้ง 15 ราย ผลเป็นลบทั้งหมด ที่เหลืออีก 2 รายให้สังเกตอาการ ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อในระยะหลังจะเป็นการติดเชื้อจากคนในครอบครัวเป็นส่วนมาก จากปู่-ย่า ส่งต่อถึงหลาน โดยที่พ่อแม่หลานมีผลเป็นลบทั้งคู่ ดังนั้น หากท่านมีการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ป่วยจะต้องแยกกักตนเองอย่างจริงจัง ไม่อยู่ใกล้ลูกหลาน หรือผู้สูงอายุจำนวน 14 วัน ก็จะสามารถลดการแพร่ระบาดลงได้ นอกจากนี้ยังพบว่าหลังจากมีการนำโรคเข้ามายังจังหวัดเชียงใหม่จากผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงแล้ว ก็จะต่อด้วยการระบาดโดยการสัมผัสในครอบครัวและชุมชนอีกด้วย
ส่วนคลัสเตอร์ต่างๆ ขณะนี้มีคลัสเตอร์ที่ปลอดภัยแล้ว 14 คลัสเตอร์ ยังคงเฝ้าระวังต่อเนื่องอีก 7 คลัสเตอร์ สำหรับยอดจองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อยู่ที่ 196,773 ราย ซึ่งยังห่างจากร้อยละ 70 ของประชากรเชียงใหม่พอสมควร โดยขณะนี้ประชาชนจังหวัดเชียงใหม่ฉีดวัคซีนไปแล้ว จำนวน 68,617 ราย นับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา สำหรับเมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.64) ทั้ง 46 หน่วยฉีดของจังหวัดเชียงใหม่ ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนไปแล้วจำนวน 12,691 ราย แยกเป็นประชาชนทั่วไป (ผู้สูงอายุ และ ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง) จำนวน 9,211 คน กลุ่มองค์กรด้านการท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ 3,480 ราย ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนประชาชนที่ยังลังเลใจหรือไม่ประสงค์ฉีด ลงทะเบียนจองเข้ารับวัคซีนโควิด-19 ผ่านเว็บไซต์ “ก๋ำแปงเวียง” เพื่อสร้างกำแพงป้องกันโรคให้คนเชียงใหม่
ด้านนายกนก ศรีวิชัยนันท์ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่มีแนวโน้มที่ดีตามลำดับ จึงสมควรผ่อนคลายมาตรการควบคุมบางกรณี เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพของประชาชน ดังนั้นวันนี้ ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการออกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 63/2564 เรื่อง ผ่อนคลายมาตรการบางสถานที่และให้ปิดสถานที่บางแห่งเป็นการชั่วคราว โดยให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 54 เรื่อง ปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ที่ 55/2564 เรื่อง กำหนดมาตรการใช้อาคารหรือสถานที่ ซึ่งให้ปิดสถานที่ดังต่อไปนี้ สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายกับสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ สถานประกอบกิจการอาบน้ำ สถานประกอบกิจการอาบอบนวด โรงภาพยนตร์ โต๊ะสนุกเกอร์ สถานที่เล่นโบว์ลิ่ง ร้านเกม ตู้เกม และร้านอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ ยิม ฟิตเนส หรือสถานที่ออกกำลังกายอื่นใดทำนองเดียวกัน สถานที่สักหรือเจาะผิวหนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย และสถาบันลีลาศหรือสอนลีลาศ โรงเรียนสอนเต้นรำ
และมาตรการควบคุมกิจกรรมเสี่ยงและจำกัดเวลาเปิดปิดสถานที่ ทั้งในร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่ม ให้บริโภคอาหารและเครื่องดื่มในร้านได้ภายในกำหนดเวลาปกติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยห้ามการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ณ บริเวณของร้าน (ในร้านและพื้นที่ต่อเนื่อง) ในส่วนของห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น และงดเว้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลาดโต้รุ่ง สถานที่จำหน่ายสินค้าเวลากลางคืน/ถนนคนเดินซึ่งมีลักษณะเป็นการประจำ ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้นๆ
ทั้งนี้หากมีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท ตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโคติดต่อ พ.ศ. 2558 แล้วแต่กรณี มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2564