เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มไทยไม่ทน "คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย" นำโดย นายจตุพร พรหมพันธ์ุ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน นางพะเยาว์ อัคฮาด, นายจอมพล รุ่งเรืองชูเลิศ คณะปราบโกงชาติ นายไทกร พลสุวรรณ เลขาธิการแนวร่วมอีสานกู้ชาติ เดินทางมายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ ครม. เพื่อขอให้ลาออก นายจตุพร กล่าวว่า ประเด็นที่มียื่นในวันนี้เพื่อชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดการบริหารงานของรัฐบาล ซึ่งมีการผูกขาด เศรษฐกิจ และการเมือง ฉ้อฉลอำนาจเพื่อประโยชน์ของตัวเอง และพวกพ้อง ภายหลังสนับสนุนให้กลุ่มทุนต่างๆ อาทิ กลุ่มทุนพลังงาน กลุ่มทุนค้าปลีก กลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์ ยึดครองประเทศปล่อยให้มีอำนาจเหนือรัฐบาล และรัฐสภา และกำลังจะมีอำนาจเหนือระบอบการปกครอง อย่างไรก็ตามวันนี้ระบอบประยุทธ์เลวร้ายอยู่แล้ว กลับปล่อยให้กลุ่มทุนผูกขาดมีอำนาจเหนือการปกครองอีก อยากถามพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้นำประเทศจะไม่ทราบเลยหรือ "วันนี้ยิ่งกว่าคำว่าทุนสามานย์เสียอีก ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ของประเทศก็ควรลาออกไป ผมจะไม่ให้อภัยเพียงเพราะท่านออกมาขอโทษ" นายจตุพร กล่าวและว่า ส่วนกรณีที่นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ ระบุว่าที่ตนออกมาเรียกร้องในวันนี้ เพราะต้องการผลักดันเรื่องการปรองดองและนิรโทษกรรม ตนอยากเรียนว่าตนมาครั้งไหน นายเสกสกล ก็ไม่เคยออกมารับหนังสือสักครั้งเดียว ทั้งนี้ เมื่อมีการพูดคุยเรื่องปรองดองและนิรโทษกรรมครั้งใด จุดจบคือเก็บใส่ลิ้นชัก ดังนั้น ไม่มีเวลาและ โอกาสแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ต้องลาออก ไม่ต้องมาพูดเรื่องปรองดองและ นิรโทษกรรมอะไรทั้งนั้น เพราะการคุยก่อนหน้านี้เป็นการหลอกไปคุย ที่ตนมาวันนี้ไม่ได้มาเรื่องปรองดองและนิรโทษกรรมแล้วแต่มาเรื่องประเทศชาติ นายจตุพร กล่าวต่อว่า ในวันที่ 9 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา พวกตนจะไปยื่นหนังสือผ่านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (ปธ.วิปฝ่ายค้าน) เพื่อขอให้ส.ส. ฝ่ายค้านทั้งหมด ลาออกจากเป็น ส.ส.เพราะไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลและปกครองผลประโยชน์ประเทศชาติได้