วันนี้ (4 มิ.ย. 64) นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส. เขต 2 ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี นางสาวสุกานดา ปานะสุทธะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม นายชนันต์ อินทรักษ์ นายอำเภอวัดเพลง นายภาสกร บุญไทย ตัวแทนกรมเจ้าท่า ผู้แทนชลประทานราชบุรี นายสุธีร์ เล้าศศิวัฒนพงศ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด เขต อ.วัดเพลง คณะผู้บริหาร อบจ.ราชบุรี ข้าราชการ ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.วัดยางงาม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ผู้นำชุมชนตำบลวัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ร่วมลงเรือสำรวจปัญหาในพื้นที่ 2 ฝั่งคลองประดู่ จ.สมุทรสงคราม และ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นคลองกั้นระหว่าง 2 จังหวัด ทั้งนี้เพื่อกำหนดแนวทางพัฒนาแก้ไขปัญหาน้ำเสีย พร้อมทั้งส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ วิถีชุมชน และวัฒนธรรมในอนาคตร่วมกัน
ทั้งนี้สองฝ่ายได้ประชุมหารือร่วมกัน มีผู้นำชุมชนแจ้งเรื่องปัญหาผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยคลองประดู่มีต้นน้ำมาจาก อ.ปากท่อ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ลงสู่แม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน อ.อัมพวา ก่อนไหลลงสู่ปากอ่าวที่ จ.สมุทรสงคราม ช่วงที่ผ่านมา จ.สมุทรสงคราม มีปัญหาน้ำเสียจากพื้นที่ต้นน้ำ ไหลไปลงด้านท้ายน้ำ ส่งผลให้สัตว์น้ำของเกษตรกรได้รับผลกระทบ อีกทั้งสภาพคูคลองมีลักษณะตื้นเขิน มีวัชพืชอยู่ริมคลอง ยังไม่ได้นำมาสู่การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมตรวจสอบปัญหากับ นายก อบจ.สมุทรสงคราม เกี่ยวกับคลองวัดประดู่ ส่วนแนวทางการพูดคุยได้ข้อสรุปว่าเราจะพัฒนาร่วมกัน โดยพื้นที่ราชบุรีซึ่งมีหน้าที่ที่ไปดูต้นทางของน้ำว่าปัญหาน้ำเสียเกิดมาจากสาเหตุใด จะต้องอาศัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระหว่างต้นทางของน้ำช่วยกันหาทางปรับปรุงแก้ไขปัญหา ส่วนแนวทางการพัฒนาได้ร่วมมือกันทั้งเรื่องงบประมาณ การสร้างแหล่งท่องเที่ยวหรือจะทำให้เป็นคลองสวยน้ำใสจะดำเนินการอย่างไร มีหลายหน่วยงานเข้ามาให้คำแนะนำในเรื่องนี้ด้วย
นางสาวสุกานดา ปานะสุทธะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ อบจ.ทั้ง 2 แห่ง เพราะเป็นแม่น้ำลำคลองที่เชื่อมต่อ 2 จังหวัด มีความเป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งการทำงบประมาณจะเป็นเรื่องยาก เพราะว่าฝั่งหนึ่งเป็นของราชบุรี ส่วนอีกฝั่งเป็นของสมุทรสงคราม การทำงบประมาณเกี่ยวกับคลองจะต้องเชื่อมทั้งสองข้าง วันนี้ได้มาพูดคุยและตกลงกันจะร่วมมือกัน อาจจะต้องทำเอ็มโอยูร่วมกัน ที่จะพัฒนาคลองวัดประดู่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และกลับไปเป็นคลองสวยน้ำใสอีกครั้ง ส่วนปัญหาอีเรื่อง คือ การแก้ไขปัญหาน้ำเสียในคลองวัดประดู่ซึ่งมีถิ่นกำเนิดซึ่งราชบุรีเป็นต้นน้ำและของสมุทรสงครามเป็นปลายน้ำ จึงจะร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชนทั้งสองพื้นที่ด้วย ส่วนเรื่องงบประมาณที่จะใช้นั้นคงต้องขอสำรวจพื้นที่ก่อน ว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไรบ้าง การพัฒนาคลองจะต้องทำอย่างไร เช่น การขุดลอกคูคลอง หรือ พัฒนาริมสองฝั่งคลอง ตอนนี้ได้งบประมาณจากกรมเจ้าท่าโดยผ่าน ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ของบประมาณมาเพื่อจะขุดลอกคูคลองนี้ เพราะเป็นเขตเชื่อมทั้งสองจังหวัด การทำงบประมาณต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการและต้องศึกษาระเบียบของ อบจ.ด้วย คาดว่าในสมัยเราสองจังหวัด คลองแห่งนี้จะต้องแล้วเสร็จสมบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อย่างยั่งยืน
ด้านนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากปัญหาในพื้นที่นี้ จึงได้ร่วมกับนายก อบจ.ราชบุรี และนายก อบจ.สมุทรสงคราม ได้ลงเรือสำรวจพื้นที่ร่วมกันในวันนี้ จากเดิมเมื่อปี 2563 ได้ลงไปตรวจสอบพื้นที่แล้ว แต่ด้วยปัญหานี้ใหญ่มาก วันนี้จึงประสานนายก อบจ.ทั้ง 2 จังหวัดมาร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหา และยังได้ไปพบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งรับผิดชอบดูแลกรมเจ้าท่า และท่านได้รับปากว่าจะมาร่วมกับ 2 จังหวัดพัฒนาคลองให้เป็นสวยน้ำใสให้ได้ ตรงนี้จึงเป็นหน้าที่ท้องถิ่นที่จะร่วมกันสำรวจพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อหาแนวทางแก้ไข ซึ่งหากทำได้เร็วจะได้คลองที่รับน้ำสะอาดเชื่อมต่อสองจังหวัดในอนาคต
ทั้งนี้สองฝ่ายได้ประชุมหารือร่วมกัน มีผู้นำชุมชนแจ้งเรื่องปัญหาผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยคลองประดู่มีต้นน้ำมาจาก อ.ปากท่อ อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ลงสู่แม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน อ.อัมพวา ก่อนไหลลงสู่ปากอ่าวที่ จ.สมุทรสงคราม ช่วงที่ผ่านมา จ.สมุทรสงคราม มีปัญหาน้ำเสียจากพื้นที่ต้นน้ำ ไหลไปลงด้านท้ายน้ำ ส่งผลให้สัตว์น้ำของเกษตรกรได้รับผลกระทบ อีกทั้งสภาพคูคลองมีลักษณะตื้นเขิน มีวัชพืชอยู่ริมคลอง ยังไม่ได้นำมาสู่การแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายก อบจ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมตรวจสอบปัญหากับ นายก อบจ.สมุทรสงคราม เกี่ยวกับคลองวัดประดู่ ส่วนแนวทางการพูดคุยได้ข้อสรุปว่าเราจะพัฒนาร่วมกัน โดยพื้นที่ราชบุรีซึ่งมีหน้าที่ที่ไปดูต้นทางของน้ำว่าปัญหาน้ำเสียเกิดมาจากสาเหตุใด จะต้องอาศัยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระหว่างต้นทางของน้ำช่วยกันหาทางปรับปรุงแก้ไขปัญหา ส่วนแนวทางการพัฒนาได้ร่วมมือกันทั้งเรื่องงบประมาณ การสร้างแหล่งท่องเที่ยวหรือจะทำให้เป็นคลองสวยน้ำใสจะดำเนินการอย่างไร มีหลายหน่วยงานเข้ามาให้คำแนะนำในเรื่องนี้ด้วย
นางสาวสุกานดา ปานะสุทธะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับ อบจ.ทั้ง 2 แห่ง เพราะเป็นแม่น้ำลำคลองที่เชื่อมต่อ 2 จังหวัด มีความเป็นเจ้าของร่วมกัน ซึ่งการทำงบประมาณจะเป็นเรื่องยาก เพราะว่าฝั่งหนึ่งเป็นของราชบุรี ส่วนอีกฝั่งเป็นของสมุทรสงคราม การทำงบประมาณเกี่ยวกับคลองจะต้องเชื่อมทั้งสองข้าง วันนี้ได้มาพูดคุยและตกลงกันจะร่วมมือกัน อาจจะต้องทำเอ็มโอยูร่วมกัน ที่จะพัฒนาคลองวัดประดู่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และกลับไปเป็นคลองสวยน้ำใสอีกครั้ง ส่วนปัญหาอีเรื่อง คือ การแก้ไขปัญหาน้ำเสียในคลองวัดประดู่ซึ่งมีถิ่นกำเนิดซึ่งราชบุรีเป็นต้นน้ำและของสมุทรสงครามเป็นปลายน้ำ จึงจะร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ประชาชนทั้งสองพื้นที่ด้วย ส่วนเรื่องงบประมาณที่จะใช้นั้นคงต้องขอสำรวจพื้นที่ก่อน ว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไรบ้าง การพัฒนาคลองจะต้องทำอย่างไร เช่น การขุดลอกคูคลอง หรือ พัฒนาริมสองฝั่งคลอง ตอนนี้ได้งบประมาณจากกรมเจ้าท่าโดยผ่าน ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งได้ของบประมาณมาเพื่อจะขุดลอกคูคลองนี้ เพราะเป็นเขตเชื่อมทั้งสองจังหวัด การทำงบประมาณต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการและต้องศึกษาระเบียบของ อบจ.ด้วย คาดว่าในสมัยเราสองจังหวัด คลองแห่งนี้จะต้องแล้วเสร็จสมบูรณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อย่างยั่งยืน
ด้านนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า จากปัญหาในพื้นที่นี้ จึงได้ร่วมกับนายก อบจ.ราชบุรี และนายก อบจ.สมุทรสงคราม ได้ลงเรือสำรวจพื้นที่ร่วมกันในวันนี้ จากเดิมเมื่อปี 2563 ได้ลงไปตรวจสอบพื้นที่แล้ว แต่ด้วยปัญหานี้ใหญ่มาก วันนี้จึงประสานนายก อบจ.ทั้ง 2 จังหวัดมาร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหา และยังได้ไปพบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งรับผิดชอบดูแลกรมเจ้าท่า และท่านได้รับปากว่าจะมาร่วมกับ 2 จังหวัดพัฒนาคลองให้เป็นสวยน้ำใสให้ได้ ตรงนี้จึงเป็นหน้าที่ท้องถิ่นที่จะร่วมกันสำรวจพื้นที่อย่างละเอียด เพื่อหาแนวทางแก้ไข ซึ่งหากทำได้เร็วจะได้คลองที่รับน้ำสะอาดเชื่อมต่อสองจังหวัดในอนาคต