ปศุสัตว์บุรีรัมย์ ร่วมกับ อบต.เมืองไผ่ อ.หนองกี่ ให้ความรู้เกษตรกรควบคุม ป้องกันโรค “ลัมปี สกิน” หลังพบวัวติดเชื้อแล้ว ขณะทั้งจังหวัดพบติดเชื้อกว่า 2,360 ตัว ตาย 46 ตัว หากพบสัตว์ป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด หรือปศุสัตว์อำเภอในท้องที่ทันที
เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.64 ที่คอกวัวบ้านหนองปรือ หมู่ที่ 1 ต.เมืองไผ่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ นายไตรเทพ งามกมล ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย เป็นประธานเปิดโครงการอบรมให้ความรู้ด้านการควบคุมป้องกัน โรคระบาดในสัตว์ โรค “ลัมปี สกิน” (Lumpy skin disease) ใน อ.หนองกี่ ซึ่งสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอหนองกี่ และ อบต.เมืองไผ่ จัดขึ้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปยังท้องที่อื่น ๆ และเพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ทำความเข้าใจร่วมกันแก่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน และเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ ในการป้องกัน กำจัดและควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือ มีอาชีพและรายได้จากการเลี้ยงโค-กระบือ อย่างยั่งยืนต่อไป
โดยมีนายอภิชาติ สุวรรณชัยรบ ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ , นายวิรัตน์ กลิ่นขจร นายอำเภอหนองกี่ , นางสาวศิริรัตน์ บุญชัยสุข สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ , นายธวัชชัย จันทร์โฮง ปศุสัตว์อำเภอหนองกี่, นายหิรัญวุฒิ บุญล้อม นายก อบต.เมืองไผ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือในพื้นที่ ต.เมืองไผ่ อ.หนองกี่ เข้าร่วม
ทั้งนี้ ได้มีการร่วมประชุมชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคลัมปี สกิน การเฝ้าระวังป้องกัน และการออกรณรงค์ฉีดวัคซีน เพื่อฉีดพ่นสารเคมีฆ่าเชื้อ ฉีดพ่นหมอกควันตามคอกปศุสัตว์ของเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อกำจัดแมลงที่เป็นพาหะ แจกยารักษาแผลภายนอก ยาบำรุง แร่ธาตุ โดยทาง อบต.เมืองไผ่ ยังได้มอบน้ำยาฉีดพ่นฆ่าเชื้อแก่ปศุสัตว์อำเภอหนองกี่ เพื่อนำไปทำการฉีดพ่นตามคอกปศุสัตว์ของเกษตรกรในพื้นที่ ต.เมืองไผ่ ด้วย
นายอภิชาติ สุวรรณชัยรบ ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า โรคลัมปี สกิน เป็นโรคที่อุบัติใหม่สำหรับประเทศไทย แต่เป็นโรคที่เกิดขึ้นในสัตว์เคี้ยวเอื้องอย่างโค-กระบือ โดยมีสัตว์ดูดเลือดเป็นพาหะนำโรค เช่น ยุง แมลง เห็บ ริ้น ไร และโรคนี้ไม่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ รักษาหายได้ และสามารถบริโภคได้
ซึ่งทางปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอทั้ง 23 อำเภอ ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งรณรงค์ให้ความรู้เพื่อทำความเข้าใจแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือแล้ว รวมถึงจะเร่งดำเนินการฉีดยาวัคซีน ฉีดพ่นสารเคมี และฉีดพ่นหมอกควัน เพื่อกำจัดแมลงที่เป็นพาหะนำโรคให้ครอบคลุมทั้ง 23 อำเภอ ซึ่งขณะนี้ จ.บุรีรัมย์ พบว่า มีโคที่ป่วยจากโรคลิมปี สกินแล้วกว่า 2,360 ตัว และรักษาหายไปแล้ว 112 ตัว ตาย 46 ตัว
สำหรับสัตว์ที่ป่วยจะมีอาการที่สังเกตได้ คือ พบตุ่มเนื้อบนผิวหนัง และเยื่อเมือกทั่วร่างกาย ต่อมาจะตกสะเก็ดและเป็นแผลหลุม สัตว์อาจมีไข้และหายใจลำบากร่วมด้วย จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรหมั่นดูแลสุขภาพของโค-กระบือ ให้มีสุขภาพแข็งแรง หากพบสัตว์ผิดปกติ สงสัยว่าป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด หรือ ปศุสัตว์อำเภอในท้องที่ทันที เพื่อให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างรวดเร็ว และไม่แพร่กระจายไปในวงกว้าง
โดยมีนายอภิชาติ สุวรรณชัยรบ ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ , นายวิรัตน์ กลิ่นขจร นายอำเภอหนองกี่ , นางสาวศิริรัตน์ บุญชัยสุข สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ , นายธวัชชัย จันทร์โฮง ปศุสัตว์อำเภอหนองกี่, นายหิรัญวุฒิ บุญล้อม นายก อบต.เมืองไผ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และเกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือในพื้นที่ ต.เมืองไผ่ อ.หนองกี่ เข้าร่วม
ทั้งนี้ ได้มีการร่วมประชุมชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของโรคลัมปี สกิน การเฝ้าระวังป้องกัน และการออกรณรงค์ฉีดวัคซีน เพื่อฉีดพ่นสารเคมีฆ่าเชื้อ ฉีดพ่นหมอกควันตามคอกปศุสัตว์ของเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อกำจัดแมลงที่เป็นพาหะ แจกยารักษาแผลภายนอก ยาบำรุง แร่ธาตุ โดยทาง อบต.เมืองไผ่ ยังได้มอบน้ำยาฉีดพ่นฆ่าเชื้อแก่ปศุสัตว์อำเภอหนองกี่ เพื่อนำไปทำการฉีดพ่นตามคอกปศุสัตว์ของเกษตรกรในพื้นที่ ต.เมืองไผ่ ด้วย
นายอภิชาติ สุวรรณชัยรบ ปศุสัตว์จังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า โรคลัมปี สกิน เป็นโรคที่อุบัติใหม่สำหรับประเทศไทย แต่เป็นโรคที่เกิดขึ้นในสัตว์เคี้ยวเอื้องอย่างโค-กระบือ โดยมีสัตว์ดูดเลือดเป็นพาหะนำโรค เช่น ยุง แมลง เห็บ ริ้น ไร และโรคนี้ไม่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ รักษาหายได้ และสามารถบริโภคได้
ซึ่งทางปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอทั้ง 23 อำเภอ ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งรณรงค์ให้ความรู้เพื่อทำความเข้าใจแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโค-กระบือแล้ว รวมถึงจะเร่งดำเนินการฉีดยาวัคซีน ฉีดพ่นสารเคมี และฉีดพ่นหมอกควัน เพื่อกำจัดแมลงที่เป็นพาหะนำโรคให้ครอบคลุมทั้ง 23 อำเภอ ซึ่งขณะนี้ จ.บุรีรัมย์ พบว่า มีโคที่ป่วยจากโรคลิมปี สกินแล้วกว่า 2,360 ตัว และรักษาหายไปแล้ว 112 ตัว ตาย 46 ตัว
สำหรับสัตว์ที่ป่วยจะมีอาการที่สังเกตได้ คือ พบตุ่มเนื้อบนผิวหนัง และเยื่อเมือกทั่วร่างกาย ต่อมาจะตกสะเก็ดและเป็นแผลหลุม สัตว์อาจมีไข้และหายใจลำบากร่วมด้วย จึงขอให้พี่น้องเกษตรกรหมั่นดูแลสุขภาพของโค-กระบือ ให้มีสุขภาพแข็งแรง หากพบสัตว์ผิดปกติ สงสัยว่าป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด หรือ ปศุสัตว์อำเภอในท้องที่ทันที เพื่อให้การควบคุมโรคเป็นไปอย่างรวดเร็ว และไม่แพร่กระจายไปในวงกว้าง