เมื่อเวลา 23.00 น.วานนี้ (3 มิ.ย.64 ) นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา นายศรัณย์พล ลีฬหาวงศ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลสะเตงนอก ตลอดจน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร อส. สาธารณสุข เทศบาลนครยะลา เทศบาลเมืองสะเตงนอก รวมถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สนธิกำลังร่วม กว่า 30 คน ออกตรวจสอบ ร้านค้า ร้านขายอาหาร ร้านน้ำชา ในเขตเทศบาลเมืองนครยะลา และเขตเทศบาลเมืองสะเตงนอก ที่ฝ่าฝ่าฝืนคำสั่ง ศบค.จังหวัดยะลา เปิดเกินเวลา และไม่มีการปฎิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ในการป้องกันและยับยั้งการระบาดของโรคโควิด-19 หลังทางเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน และได้ออกประชาสัมพันธ์ตักเตือนมาหลายครั้งแล้ว
นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา กล่าวว่า การปฏิบัติการเข้าจับกุมในครั้งนี้ว่า เจ้าหน้าที่ได้บูรณาการกำลังกัน 4 ฝ่าย รวมถึง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เทศบาลนครยะลา เทศบาลเมืองสะเตงนอก เริ่มตั้งแต่มาตรการเบาที่สุด ชี้แจงภารกิจ มีการประชุม ทำความเข้าใจกัน กำหนดแผน ทั้งเขตเทศบาลนครยะลา และเทศบาลเมืองสะเตงนอก เพื่อแจ้งให้ผู้ประกอบการ ร้านค้า ที่เป็นไปตามประกาศของจังหวัด คือ ปิดเวลา 4 ทุ่ม มีระยะห่าง โดยก่อนหน้านี้ ได้ลงพื้นที่ ทั้ง 2 ส่วน 2 เทศบาล เพื่อสร้างความเข้าใจ ขอความร่วมมือ ให้ดำเนินการตามมาตรการทั้งแจ้งด้วยวาจา และด้วยเอกสาร ครั้งนี้ ก็ได้รวมกำลังกันบังคับใช้กฎหมาย พบบางร้าน ดูจากเจตนาแล้วจงใจที่จะฝ่าฝืนคำสั่ง ก็ได้จับกุมดำเนินคดี เป็นไปตามประกาศมาตรการที่จังหวัดออกเป็นข้อบังคับไว้
นายอำเภอเมืองยะลา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า อยากจะขอความร่วมมือ ร้านค้าต่างๆ ตอนนี้ ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ก็ยังต้องขอความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของทุกคน ในการเป็นกลไกสนับสนุนให้การควบคุมโรคของจังหวัด เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากนี้ก็จะยกระดับมากยิ่งขึ้น เราเองคาดการณ์ไปข้างหน้าว่า อีกเดือน 2 เดือนที่จะถึงเทศกาลฮารีรายอ ยังประเมินสถานการณ์ว่าการแพร่กระจายโรคก็ยังอยู่ และหากในระยะยาว ช่วงที่เทศกาลฤดูผลผลิตทุเรียนจะมาถึงในเดือนสิงหาคม ถ้าเรามีมาตรการควบคุมโรค เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จบได้ในเดือนกรกฎาคม ตลาดการค้าขายทุเรียนแหล่งกระจายเม็ดเงินในจังหวัดยะลา พี่น้องประชาชนก็จะได้ประโยชน์ ประชาชนก็ต้องร่วมด้วยช่วยกัน ในเรื่องของการบังคับใช้ ก็จะยกระดับเรื่อยๆ เพื่อควบคุมร้านค้า ผู้ประกอบการต่างๆ ที่ยังฝ่าฝืน หลายร้าน โดยส่วนมาก ปฎิบัติตามมาตรการ บางร้านยังฝ่าฝืน มองว่าไม่รับผิดชอบต่อสังคมก็จะดำเนินการตามมาตรการอย่างเข้มงวดต่อไป