เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. โดยความร่วมมือจากสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา (Homeland Security Investigations พ.ต.ต.กรพงศ์ วงษาลังการ สว.กก.2 บก.ป. ร.ต.อ.เมธานันท์ ไกรอานนท์, ร.ต.อ.รชา มากมณี รอง สว.กก.2 บก.ป. ร่วมกับ กก.สส.บก.ตม.2 พ.ต.ท.อรรถพล อุทัยผล รอง ผกก.ฝ่าย ตม.ขาออก ด่าน ตม.ทสภ. พ.ต.ท.ภัทราดร ภิรมย์ภู่ รอง ผกก.สส.ปป.บก.ตม.2, ว่าที่ พ.ต.ท.ภูวสิษฐ์ เจริญธนะฐิติโชค สว.กก.สส.ปป.บก.ตม.2, พ.ต.ต.สมโภชน์ ธิโรภาส สว.ฝ่าย ตม.ขาออก ด่าน ตม.ทสภ. ร่วมกันจับกุมนายแมทธิว อายุ 38 ปี ตามหมายจับ 1. ศาลอาญากรุงเทพใต้ฯ ที่ จ.231/64 ลง 25 พ.ค.64 ในข้อหาว่า ร่วมกันกรรโชกทรัพย์
2. ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.193/2564 ลง 5 พ.ค.64 ข้อหา “ร่วมกันเรียกค่าไถ่, พยายามฆ่า, อั้งยี่, ช่องโจร, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ ร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือช่องโจร ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องมาจากปฏิบัติการเข้าปิดล้อมจับกุมกลุ่มคนร้ายแก๊งทวงหนี้ข้ามชาติ ที่ก่อเหตุบุกอุ้มนักธุรกิจชาวไต้หวัน ย่านทองหล่อ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย คือ นายเจเรมี่ฯ, นายลูอิสฯ และนายเอกบดินทร์ฯ ต่อมาวันที่ 17 พ.ค.64 พ.ต.ท.กฤษณพร (สงวนนามสกุล) รอง ผกก.6 บก.จร. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ฯ ในข้อหาเดียวกัน ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนขยายผลติดตามตัวผู้กระทำความผิดรายอื่นๆ เรื่อยมาจนทราบว่า นายแมทธิว ผู้ต้องหาที่ได้ร่วมกันก่อเหตุจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ
เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาเป็นการกระทำการอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และกระทำการในรูปแบบขบวนการของกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาจะเดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณ โถงผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้แสดงตัวและทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินคดี
2. ศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.193/2564 ลง 5 พ.ค.64 ข้อหา “ร่วมกันเรียกค่าไถ่, พยายามฆ่า, อั้งยี่, ช่องโจร, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการ ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ ร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปโดยอ้างอำนาจอั้งยี่หรือช่องโจร ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ ได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องมาจากปฏิบัติการเข้าปิดล้อมจับกุมกลุ่มคนร้ายแก๊งทวงหนี้ข้ามชาติ ที่ก่อเหตุบุกอุ้มนักธุรกิจชาวไต้หวัน ย่านทองหล่อ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.64 ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 3 ราย คือ นายเจเรมี่ฯ, นายลูอิสฯ และนายเอกบดินทร์ฯ ต่อมาวันที่ 17 พ.ค.64 พ.ต.ท.กฤษณพร (สงวนนามสกุล) รอง ผกก.6 บก.จร. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ฯ ในข้อหาเดียวกัน ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนขยายผลติดตามตัวผู้กระทำความผิดรายอื่นๆ เรื่อยมาจนทราบว่า นายแมทธิว ผู้ต้องหาที่ได้ร่วมกันก่อเหตุจะเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ
เนื่องจากพฤติกรรมของกลุ่มผู้ต้องหาเป็นการกระทำการอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และกระทำการในรูปแบบขบวนการของกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ชุดจับกุมสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาจะเดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางหลบหนีออกนอกประเทศ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณ โถงผู้โดยสารขาออก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้แสดงตัวและทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ดำเนินคดี