วันที่ 1 มิถุนายน 2564 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ได้กล่าวถึงโครงการ ยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่มีผู้ได้รับสิทธิไม่เกิน 4 ล้านคน ชำระเงินค่าสินค้าหรือบริการ ได้แก่ ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ค่าบริการนวด ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (จี-วอลเล็ต) บนแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่น “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการ โดยจะได้รับวงเงินสนับสนุนในรูปของบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-เวาเชอร์ สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน โดยจะคืนเป็นวงเงินใน จี-วอลเล็ตทุกต้นเดือนถัดไป ไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้ ทั้งนี้มีวงเงินสำหรับการดำเนินโครงการรวม 28,000 ล้านบาท ที่จะผลักดันให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 268,000 ล้านบาท
สำหรับเงื่อนไขของการร่วมโครงการมีดังนี้ 1.ประชาชนที่มีสัญชาติไทย มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป 2.มีบัตรประจำตัวประชาชน โดยลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน 2564 เวลา 06.00-22.00 น. สำหรับผู้ที่เคยใช้จ่ายผ่าน จี-วอลเล็ต บนแอปฯ เป๋าตังแล้ว สามารถลงทะเบียนผ่านแอปฯ หรือเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com ตามต้องการ ส่วนประชาชนที่ไม่เคยใช้จ่ายผ่าน จี-วอลเล็ต ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ของโครงการที่ต้องการเข้าร่วม
ทั้งนี้หากผู้ที่ได้รับสิทธิ โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 หรือโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ประสงค์จะเปลี่ยนไปรับสิทธิอีกโครงการหนึ่งแทน จะต้องลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิอีกโครงการหนึ่ง ผ่านแอปฯเป๋าตัง ภายในวันที่ 28 มิถุนายน และถือเป็นการสละสิทธิโครงการเดิม หลังจากนั้น ประชาชนที่ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ จะต้องยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย โดยสามารถใช้จ่ายเงินเพื่อนำมาคำนวณสิทธิได้ในช่วงเดือนกรกฎาคม-วันที่ 30 กันยายน 2564 และใช้อี-เวาเชอร์ ได้ในช่วงเดือนสิงหาคม-วันที่ 31 ธันวาคม 2564