อุดรธานี เผาศพโควิดรายที่ 5 เป็นผู้ป่วยติดโควิด จากคลัสเตอร์บายศรีสู่ขวัญ มีเพียงพี่สาวมาร่วมงานศพคนเดียว ขณะที่รองนายแพทย์สาธารณสุขแจงผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดียหายแล้ว 3 รายเหลืออีก 1 ราย
วันนี้ (1 มิ.ย.62) ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานีรายงานว่า ที่วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ญาติของผู้ติดเชื้อโควิดและเสียชีวิต รายที่ 415 อายุ 66 ปี ของจ.อุดรธานี ซึ่งเป็นพี่สาวเพียงคนเดียวที่เดินทางมาจากจ.นครพนมเพื่อส่งดวงวิญญาณน้องชายที่เสียชีวิตหลังติดเชื้อไวรัสโควิด 19 โดยบรรยากาศ เป็นไปด้วยความเรียบง่าย ไม่มีพิธีสงฆ์ใดๆ และไม่มีแขกมาร่วมพิธี และได้ทำการวีดีโอคอลให้กับลูกสาวของผู้เสียชีวิตเพียงคนเดียวที่ประเทศออสเตรเลีย ที่ไม่สามารถเดินทางกลับมาได้เพราะประเทศออสเตรเลียห้ามเดินทางในการส่งดวงวิญญาณครั้งสุดท้าย ในส่วนภรรยาของผู้เสียชีวิตก็ติดเชื้อโควิดเช่นกันอยู่ระหว่างการรักษา
สำหรับผู้เสียชีวิต รายนี้เป็นเจ้ารถสองแถวสาย 44 ให้เช่า สายโนนสูง-อุดรธานี โดยวันที่ 12 พ.ค. 64 เดินทางไปร่วมงานบายศรีสู่ขวัญของหลานสาวและงานเลี้ยงสังสรรค์ที่หมู่บ้านโครงการแห่งหนึ่ง รวมกับญาติ 18 คน ต่อมาวันที่ 13 พ.ค. 64 มีอาการไข้ ปวดศรีษะ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย และเดินทางไปที่คลินิกหลังจากนั้นอาการไม่ดีขึ้น ต่อมาวันที่ 15 พ.ค. 64 อาการไม่ดีขึ้น ภรรยาจึงพาไปตรวจที่โรงพยาบาลอุดรธานี และวันที่ 16 พ.ค. 64 ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และได้เสียชีวิตเมื่อเย็นวานนี้ เวลา 19.00 น. รวมระยะเวลารักษา 16 วัน ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัว ความดัน เบาหวานร่วมด้วย โดยสถานที่เผาศพฯ ได้รับการอนุเคราะห์จาก พระราชสารโกศล เจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ พร้อมมาร่วมสังเกตการณ์ และได้ชี้แจงกับญาติของผู้เสียชีวิตกรณีที่ทางวัดมีการเรื่องเก็บค่าทำศพหลังจากได้มีข่าวลือออกไป ว่าที่ผ่านมาทางวัดไม่เคยเรียกเก็บค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ขณะที่นายอุเทน หาแก้ว รองสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ในพื้นที่จ.อุดรธานี วันนี้ป่วยเพิ่ม 2 ราย กลับบ้านแล้ว 425 ราย รักษาตัวอยู่ 60 ราย เสียชีวิตสะสม 5 ราย ในส่วนของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียที่พบใน จ.อุดรธานี ผู้ป่วยทั้ง 4 ราย ได้รักษาหายและกลับบ้านไปแล้ว 3 ราย เหลือนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลกุมภวาปี 1 รายโดยผู้ป่วยไม่มีอาการแทรกซ้อนทางปอด อีกไม่นานก็คงรักษาหายแล้วกลับบ้านได้แต่ทั้งนี้หากหายแล้วผู้ป่วยต้องนอนอยู่โรงพยาบาล เพื่ออยู่ดูอาการให้ครบ 14 วัน จากนั้นต้องดูแลเข้มข้นกักตัวอยู่ที่บ้านอีก 14