วันที่ 1 มิ.ย.64 นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ เปิดเผยว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทุกประเภทมีอำนาจและหน้าที่ในการป้องกัน ควบคุมและดูแลสุขภาพประชาชน ตามกฎหมาย กล่าวคือ (ก) พ.ร.บ. เทศบาล พ.ศ.2496 มาตรา 50 (4) สำหรับเทศบาลตำบล มาตรา 53 (1) สำหรับเทศบาลเมือง และมาตรา 56 (1) สำหรับเทศบาลนคร กำหนดให้เทศบาลมีหน้าที่ป้องกันและระงับโรคติดต่อ (ข) อำนาจขององค์การบริหารส่วนจังหวัด หรือ อบจ.ตาม พ.ร.บ. อบจ. พ.ศ. 2540 มาตรา 45/1 และมาตรา 46 (ค) อำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. ตาม พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 มาตรา 67 (3) กำหนดให้มีหน้าที่ควบคุมโรคและป้องกันโรคติดต่อ (ง) กรุงเทพมหานคร หรือ กทม.มีอำนาจหน้าที่ด้านการสาธารณสุข การอนามัยและการรักษาพยาบาล ตาม พ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการ กทม. พ.ศ. 2528 มาตรา 89 (16) และ (จ) เมืองพัทยา ก็สามารถกระทำการในลักษณะเดียวกัน ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 มาตรา 62 (14) นอกจากนี้ ตาม พ.ร.บ. กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 16 (19) และมาตรา 17 (19) ยังกำหนดให้เทศบาล เมืองพัทยาและ อบต. มีอำนาจหน้าที่ในการสาธารณสุข การอนามัยครอบครัวและการรักษาพยาบาล รวมถึง การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อและวัตถุประสงค์หลักของ พ.ร.บ. ดังกล่าว มีไว้เพื่ออำนวยการให้ประชาชนเข้าถึงการบริการสาธารณะจากภาครัฐและให้ อปท. มีอำนาจตัดสินใจด้วยตนเอง
การที่ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ต้องให้ ศบค. พิจารณาโดยละเอียดก่อนที่ อปท. จะซื้อและนำวัคซีนมาเป็นทางเลือกและสนับสนุนภาครัฐ หรือ การที่ นาย วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การซื้อวัคซีนยังไม่สามารถทำได้ เพราะอาจเป็นการใช้เงินผิดประเภทและต่อมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุเพิ่มเติมว่า อปท. จะซื้อได้หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับจะซื้อวัคซีนมาจากไหนและเอามาจากใคร รวมถึง การที่ นาย อนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นคนแรกที่ชี้ว่า อปท. จะซื้อวัคซีนได้หรือไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องให้ ศบค. เป็นผู้ตัดสินใจ นั้น เป็นการแสดงความคิดเห็นที่ผิดที่และผิดเวลา เพราะปัจจุบัน ประเทศไทยตกอยู่ในสภาวะ หรือ กรณีฉุกเฉินจำเป็นเร่งด่วนที่มีโรคระบาด แต่รัฐบาลไม่สามารถจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนได้อย่างครอบคลุมและเพียงพอ
นายสุพจน์ กล่าวว่า จำเป็นต้องเปิดโอกาสให้ อปท.ที่มีศักยภาพ มีความพร้อมด้านงบประมาณได้เข้ามาทำหน้าที่เสริม เติมเต็ม ให้กับประชาชน ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กระจายไปทั่วประเทศ อีกทั้ง จะเป็นการช่วยลดภาระงบประมาณของรัฐบาล อีกนัยหนึ่ง รัฐบาล ไม่ควรผูกขาดความเสี่ยงและเอาชีวิตของประชาขนไว้ในอุ้งมือแต่เพียงผู้เดียว เพราะอาจจะทำให้มองได้ว่า รัฐบาลเอาความเป็นความตาย เอาชีวิตของ ประชาชนมาไว้เป็นตัวประกัน
“ที่ผ่านมาเห็นได้ชัดแจ้งแล้วว่า รัฐบาลไม่สามารถควบคุมการระบาดของ โควิด-19 ได้ อีกทั้งไม่สามารถบริหารจัดการและวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชนได้ทั่วถึงและทันเวลา เห็นเพียงแต่การกู้เงิน กู้เงิน และกู้เงิน มาเพิ่มภาระให้กับหนี้สาธารณะของชาติและประชาชน เท่านั้น และยังไม่มีหนทางใดที่จะมองเห็นถึงทางออกที่ดีและควรจะเป็นของชาติ ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว อีกทั้ง การต่างๆ มิได้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ประกาศไว้อย่างสวยหรูและงดงาม”
นายสุพจน์ กล่าวว่ารัฐบาลทราบและสำเหนียกรู้ว่า มีข้อจำกัด ดังนั้น จึงควรเร่งและรีบกระจายอำนาจในการจัดการเรื่องการจัดซื้อ หรือ จัดหาวัคซีนให้กับ อปท. อย่าแบกภาระทั้งหมดไว้ที่รัฐบาล ก่อนที่จะเกิดภาวะการล่มสลายของประเทศ (failed state) ไปในที่สุด
ประเด็นที่ว่า ท้องถิ่นแต่ละแห่งมีรายได้ไม่เท่ากัน อาจเกิดการเปรียบเทียบว่า อยู่ในท้องถิ่นนี้มีวัคซีนฉีด อยู่อีกแห่งไม่มี ไม่ใช่เป็นประเด็นที่มีนัยสำคัญ เพราะประชาชนแต่ละพื้นที่ทราบข้อจำกัดของท้องถิ่นตนเองและหากเป็นเช่นนี้จริง (ก) ท้องถิ่นใดที่มีศักยภาพก็ให้ดำเนินการไปได้และ (ข) ท้องถิ่นไหนที่มีรายได้น้อย หรือ เงินงบประมาณไม่เพียงพอ รัฐบาลก็ต้องจัดหาและส่งวัคซีนไปสมทบเป็นการเฉพาะและการดำเนินการตามนัย ข้างต้น จะทำให้วัคซีนเข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และเศรษฐกิจก็จะฟื้นตัวเร็ว
สำหรับประเด็น เรื่อง ข้อกฎหมาย หรือ ข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นอุปสรรค นั้น ไม่น่าจะเป็นประเด็นที่สำคัญมากไปกว่าชีวิตและขวัญกำลังใจของประชาชน เพราะ พ.ร.บ. จัดตั้ง อปท. แต่ละแห่งให้อำนาจหน้าที่กับ อปท. ไว้แล้ว ส่วนไหนที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการ รัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องเร่งรีบและแก้ไข หรือ ขจัดปัญหาต่างๆ ให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว
“นายกรัฐมนตรี ได้รวบอำนาจในการจัดการเรื่องวัคซีนและเรื่องอื่นๆ ไว้ทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียวแล้ว ในปัจจุบัน ดังนั้น นายกรัฐมนตรี จะปฏิเสธว่าไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดการเรื่องนี้ไม่ได้” นายสุพจน์ กล่าว