เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.นายประมวล เอมเปีย หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวถึงกรณีองค์การอาหารและยา( อย.)มีหนังสือเลขที่ สธ. 1017/ 7268 เรื่องแจ้งผลการคัดเลือกรายการยาในบัญชียาหลักแห่งชาติต้านสมุนไพร ถึงเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อแจ้งให้ทราบว่า คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ ด้านสมุนไพร มีมติ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2564 คัดเลือกรายการยาจากสมุนไพร คือ 1.)ยาสารสกัดจากทะลายโจรข้อบ่งใช้บรรเทาอาการของโรคหวัดเช่น ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล มีไข้ข้อบ่งใช้ ใช้กับผู้ป่วยโรคโควิด-19ที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรง 2.)ยาจากผงฟ้าทะลายโจรข้อบ่งใช้ ใช้กับผู้ปวยโรคโควิด-19ที่มีความรุนแรงน้อย เพื่อลดการเกิดโรคที่รุนแรงอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติว่า การที่ อย.ออกหนังสือรับรองให้ฟ้าทลายโจร อยู่ในบัญชีหลักเพื่อรักษาโรคโควิดของผู้มีอาการรุนแรงน้อย แล้วให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นผู้สั่งจ่ายยา ตนอยากถามว่า แล้วผู้ที่จบการศึกษาจากการเรียนแพทย์แผนไทยของกระทรวงสาธารณสุข ที่ใช้เวลาในการเรียนหลายปี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรไทย ถามว่า เขาเหล่านี้จะมีอำนาจในการสั่งจ่ายยาฟ้าทลายโจรหรือไม่ และถ้าไม่มีอำนาจในการจ่ายยาฟ้าทลายโจร ตนมองว่าจะเป็นการปิดกั้นผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย
“ท่านรู้ไหมว่าทั่วประเทศมีเท่าไร กี่คน เขาจะขาดรายได้ ยิ่งภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันยิ่งแย่ อย.มาทำเช่นนี้ถือว่าตัดโอกาสที่พี่น้องคนยากจนจะซื้อยากินเบื้องต้นจากภูมิปัญญาของแพทย์แผนไทย ก็ต้องเดินทางมาหาหมอที่โรงพยาบาล และต้องรอคอยการตรวจพบหมอเป็นวันๆ จะลำบากขนาดไหน ที่สำคัญกว่าคือ ผมสงสัยว่า ถ้าไม่ใช่โรคโควิด-19 ผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยจะสามารถจ่ายยาได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ ก็ต้องยกเลิกแพทย์แผนไทยหรือไม่แล้วสมุนไพรไทยจากภูมิปัญญาของบรรพชนไทยที่ใช้มาแต่โบราณ ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขบรรจุแผนการศึกษาแพทย์แผนไทยเข้าสู่ระบบ มีหลักสูตรการศึกษาจนเป็นองค์กร มีผู้จบแพทย์แผนไทยมามากมาย จะเป็นการทำลายผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย หรืออนาคตจะไปตกอยู่ในมือใครหรือไม่ ผมไม่อยากจะคิดไปในทางลบ เชื่อว่า ผู้ประกอบการวิชาชีพแพทย์แผนไทยคงไม่ยอมแน่ อะไรจะเกิดขึ้นสุดจะคาดเดา อาจจะมีม็อบเข้า กทม.อีกนายกฯประยุทธ์คงปวดหัวว่า ใครวางยาท่าน คิดว่าเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯคงต้องลงมาดูแลเรื่องนี้เอง ก่อนที่มันจะบานปลายจนสายเกินแก้” นายประมวล กล่าว