เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 31 พ.ค. ที่รัฐสภา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ อภิปรายต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระแรก ว่า ในส่วนของการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ว่า จะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าตามที่ประเมินรายได้จากการเก็บภาษี ทั้งนี้ทราบว่าการจัดเก็บภาษีต่ำกว่า เพราะมีกรณีทุจริตหรือไม่ และพบการกระทำไม่ต้องการให้ตรวจสอบ ทั้งนี้ในกรมสรรพสามิตรมีผู้บริหารคนใหม่ เช่น ประมาณการเก็บภาษีรถยนต์ 6.6 หมื่นล้านบาท เก็บจริง 3 หมื่นล้านบาท โรงงานยาสูบ ประมาณการเก็บภาษีได้ 5,600 ล้านบาท เก็บได้ 336 ล้านบาท “กรณีเก็บภาษีรถยนต์ 2 หมื่นล้าน พบว่าราคา ขายประชาชนอีกราคาหนึ่ง มีการดำเนินคดี พนักงานสอบสวนทุ่มเท มีคำวินิจฉัยของกฤษฎีกา แต่พอมาถึงยุคพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ท่านเป่าให้หายไป และพบว่าแก้กฎหมายสรรพสามิตร ให้จัดเก็บภาษีแบบปลายทาง แทนเก็บภาษีหน้าโรงงาน ทำให้นำไปสู่ความล่มสลายของระะบบภาษี ขอฝากไปยังข้าราชการกรมจัดเก็บภาษีว่า กระทรวงการคลังมีข้าราชการที่เข้มแข็ง อย่าให้คนชั่วที่แข็งแกร่งใช้” พ.ต.อ.ทวี อภิปราย พ.ต.อ.ทวี อภิปรายด้วยว่า ฝากกรรมาธิการพิจารณา คือ งบผูกผัน เพราะเป็นความต้องการหาประโยชน์ของคนใกล้เกษียณ จำนวน 1 ล้านล้านบาท โดยปี 2565 มีงบผูกพัน จำนวน 1 แสนล้านบาท เพื่อเป็นโครงการก่อสร้าง ทั้งนี้กฎหมายระบุว่าต้องมีได้ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับใช้วิธีแบบศรีธนญชัย คือ ไม่นำงบประมาณเก่ามาคิด จึงเป็นผลประโยชน์ของข้าราชการที่ใกล้เกษียณอายุราชการ “นายกรัฐมนตรี จัดงบแบบมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะลดงบของสำนักงานก.พ. ถึง 25.4 เปอร์เซ็นต์ รวมถึง กพร. ถึง 24.5 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงตัดงบกระทรวงแรงงาน 28.7 เปอร์เซ็นต์ แต่กลับให้งบเพิ่มให้กับ กอ.รมน. ทั้งนี้ การจัดงบประมาณปี 2565 เป็นงบที่ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ หากจะให้ผ่านต้องรื้อโครงสร้าง เช่น รื้องบใหม่ ได้แก่ ผูกพันใหม่ 1 แสนล้าน งบบูรณาการ 2 แสนล้าน ทั้งนี้ในการพิจารณาชั้นกรรมาธิการ ปีที่ผ่านมา กรรมาธิการ ขอเอกสาร 500 รายการ แต่พบว่า 300 รายการไม่มาให้ ถือว่าหลบซ่อน ตีเช็คเปล่าแล้วไม่ตาม เอกสารที่ขอไม่ให้ ผมคิดว่างบครั้งนี้ไม่เกิดประโยชน์ประชาชน ประชาชนเหลื่อมล้ำ และใจดำที่เพิ่มพูนงบให้พวกพ้อง” พ.ต.อ.ทวี อภิปราย