จากกรณีที่มีพนักงานเก็บค่าโดยสารสาย 62 ท่าน้ำสาธุประดิษฐ์-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพศชาย อายุ 33 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ที่สถานีกลางบางซื่อเมื่อวันที่ 27 พ.ค.64 หลังจากฉีดเสร็จสังเกตอาการ 30 นาทีไม่ได้พบอาการผิดปกติแต่อย่างใด จากนั้นขณะที่พนักงานคนดังกล่าวกำลังจะมาขึ้นรถกับกลุ่มเพื่อนพนักงาน ขสมก. ที่มาฉีดวัคซีนในวันนั้น เพื่อกลับไปที่ทำงานคืออู่สาธุประดิษฐ์พบว่าพนักงานคนดังกล่าวมีอาการปวดศรีษะ ล้มลง แล้วเกิดอาการชักเกร็ง นั้น
ล่าสุด นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เผยว่า หลังเข้ารับการฉีดวัคซีนฯ และได้เสร็จสังเกตอาการ 30 นาที ก็ไม่พบอาการผิดปกติแต่อย่างใด แต่เมื่อกลับถึงอู่สาธุประดิษฐ์ พนักงานคนดังกล่าวมีอาการปวดศรีษะ ล้มลง แล้วเกิดอาการชักเกร็ง ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ และพาไปรักษาที่สถาบันประสาทวิทยา โดยหมอวินิจฉัยว่า พนักงานคนดังกล่าวมีโรคประจำตัวคือโรคชักเกร็ง จากนั้นให้การรักษาจนมีอาการดีขึ้น จึงพาพนักงานคนดังกล่าวกลับอู่สาธุประดิษฐ์ แต่ก็กลับมีอาการชักเกร็งอีกครั้ง
ขณะเดียกจากสืบประวัติพบว่าพนักงานคนนี้เคยรักษาอาการชักเกร็งที่ รพ.เลิดสิน จึงได้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.เลิดสินทันที และตอนนี้ก็รู้สึกตัวดี ช่วยเหลือตนเองได้ ยืนยันว่าไม่มีการเสียชีวิตเหมือนที่มีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามจากการซักประวัติเพิ่มเติมพบว่า เคยเข้าการรักษาอาการชักเกร็งที่ รพ.เลิดสิน เมื่อช่วงเดือน มี.ค.64 จากนั้นอาการดีขึ้น แพทย์จึงให้กลับบ้าน และให้ยามารับประทานเพื่อรักษาโรคดังกล่าว เมื่อยาหมดพบว่าอาการดีขึ้น จึงไม่ได้กลับไปขอรับยาที่ รพ. มารักษาอย่างต่อเนื่อง ทำไม่ได้ทานยามาสักระยะ จึงทำให้อาการกำเริบ
นอกจากนี้พนักงานคนดังกล่าวไม่ได้แจ้งว่ามีโรคประจำตัว เพื่อให้แพทย์ประเมินก่อนการฉีดวัคซีน ทำให้ไม่ทราบข้อมูลในส่วนนี้ จึงเกิดปัญหาดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ ขสมก. เน้นย้ำพนักงานที่เข้าฉีดวัคซีนทุกคนว่า ถ้าใครมีโรคประจำตัวต้องแจ้งหัวหน้างานทันที เพื่อส่งข้อมูลให้แพทย์ประเมินว่าสามารถฉีดวัคซีนได้หรือไม่ เพื่อป้องกันการเกิดกรณีแบบนี้
ด้านนายอาทร ถิ่นรัตน์ พนักงานเก็บค่าโดยสารสาย 62 ท่าน้ำสาธุประดิษฐ์-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผู้ที่เกิดเหตุครั้งนี้ ล่าสุดได้มีการอัดคลิปผ่านสื่อโชเชียล เพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ตนเองเข้า รพ. ครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แต่เป็นโรคประจำตัวของตนเอง ที่ตนเองไม่ได้รับยามาแล้ว 3-4 เดือน ทำให้อาการกำเริบ และขอบคุณสำหรับกำลังใจทุกคนที่ห่วงใยครั้งนี้
