เมื่อ​​วันที่ 29 พ.ค. นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงมีหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 13 หน่วยฯ กระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาค โดยเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างกองทัพบกและกองทัพอากาศ สนับสนุนอากาศยานและบุคลากร สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวง ถึงแม้ว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงต้นฤดูฝน แต่ในหลายพื้นที่ยังคงมีปริมาณน้ำฝนและการกระจายตัวของฝนค่อนข้างน้อย ซึ่งกรมฝนหลวงฯ ได้ติดตามข้อมูลและประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด้านการบริหารจัดการน้ำ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาคำนวณ วิเคราะห์ และวางแผนในการปฏิบัติการฝนหลวงในแต่ละวันให้มีความถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น สำหรับผลการปฏิบัติฝนหลวงเมื่อวานนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมกับกองทัพอากาศ และกองทัพบก ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 10 หน่วยปฏิบัติการ ทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของ จ.แม่ฮ่องสอน ตาก ลำพูน พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี พิจิตร กาญจนบุรี สุพรรณบุรี อุดรธานี สกลนคร หนองบัวลำภู นครราชสีมา ชัยภูมิ อุบลราชธานี ศรีสะเกษประจวบคีรีขันธ์ สามารถเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนจำนวน 8 แห่ง อ่างเก็บน้ำจำนวน 10 แห่ง และบึงบอระเพ็ด ​​ ด้านการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงเช้าวันนี้ พบว่า ผลการตรวจสภาพอากาศจากสถานีเรดาร์ในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง ในเช้าวันนี้จึงมีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 5 หน่วยฯ ได้แก่ ​​-หน่วยฯ จ.ตาก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.ตาก จ.ลำปาง และพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพลเขื่อนแม่มอก -หน่วยฯ จ.พิษณุโลก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ จ.กำแพงเพชร จ.สุโขทัย -หน่วยฯ จ.กาญจนบุรี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี ​​-หน่วยฯ จ.อุบลราชธานี ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ​​-หน่วยฯ จ.พิษณุโลก ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ ​​-หน่วยฯ จ.สระแก้ว ช่วยเหลือพื้นที่การเกษตร จ.สระแก้ว ​​ อย่างไรก็ตาม อีก 8 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จะติดตามสภาพอากาศต่อเนื่อง หากมีการเปลี่ยนแปลงเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่เป้าหมายต่อไป ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100