วันที่ 29 พ.ค.64 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง นายแพทย์พงศธร พอกเพิ่มดี ที่ปรึกษาระดับกระทรวง นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ชี้แจงแนวทางการดำเนินงานจัดบริการวัคซีนโควิด-19 เตรียมความพร้อมสำหรับการฉีดให้ประชาชนในเดือนมิถุนายน 2564 นายแพทย์เกียรติภูมิ กล่าวว่า ในการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ขณะนี้ ทุกจังหวัดได้มีการซักซ้อมระบบและฉีดได้ตามเป้าหมาย ก่อนที่จะฉีดพร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 7 มิถุนายน โดยกระทรวงสาธารณสุขจะกระจายวัคซีนไปยัง 76 จังหวัดตามแผนการจัดสรรของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาการฉีดในกลุ่มเป้าหมายต่างๆ และให้ทุกจังหวัดจดบันทึกข้อมูลการให้บริการ และจำนวนคงคลังในระบบ MOPH Immunization Center (MOHP IC) ให้ครบ เตรียมความพร้อมในการออกเอกสารรับรองในผู้ที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม สำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ โดยจะมอบอำนาจให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และผู้อำนวยการโรงพยาบาลระดับจังหวัด ในการออกเอกสารรับรองตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ทั้งนี้ ได้ย้ำให้ทุกจังหวัดเน้นการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มครู บุคลากรทางการศึกษา รองรับการเปิดภาคการศึกษา สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรังที่ลงทะเบียนมาแล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ จะได้รับวัคซีนในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป โดย การลงทะเบียนรับวัคซีนสำหรับประชาชนทั่วไป ในต่างจังหวัด (76 จังหวัด ไม่รวมกทม.) มีหลากหลายช่องทาง เริ่มลงทะเบียนวันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ได้แก่ ไลน์/ แอปพลิเคชัน หมอพร้อม แอปพลิเคชันของจังหวัด ผ่านอสม. และ รพ.สต. หรือติดต่อโรงพยาบาลใกล้บ้าน เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ข้อมูลทั้งหมดจะสู่ระบบฐานข้อมูล MOHP IC และหมอพร้อม จะติดตามอาการ นัดหมายฉีดครั้งที่ 2 รวมทั้งออกเอกสารการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ด้าน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ได้ประชุมทำความเข้าใจเรื่องการกระจายวัคซีนโควิด 19 ให้แก่ทุกจังหวัด ซึ่งตามนโยบายของ ศบค.มีเป้าหมายฉีดวัคซีนโควิด 19 เข็มแรก จำนวน 50 ล้านโดสให้เสร็จภายในเดือนกันยายน 2564 กำหนดเริ่มฉีดวัคซีนอย่างเป็นทางการวันที่ 7 มิถุนายน 2564 ยืนยันว่า ทุกจังหวัดจะมีวัคซีนฉีดแน่นอน วัคซีนที่รัฐบาลจัดหาทั้งวัคซีนของ "แอสตร้าเซนเนก้า" และ "ซิโนแวค" สามารถฉีดได้ในกลุ่มอายุ 18 ปีขึ้นไปเหมือนกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาฉีดให้ โดยยึดหลักวิชาการทางการแพทย์ สำหรับการกระจายวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ทาง ศบค.จะเป็นผู้กำหนดในการจัดส่งให้แต่ละจังหวัด กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดส่งวัคซีนไปตามนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณาการฉีดในกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ โดยพิจารณาทั้งจากจำนวนประชากร, สถานการณ์การระบาด, กลุ่มเป้าหมาย, พื้นที่นโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยว เช่น จ.ภูเก็ต ที่จะเปิดเรื่องท่องเที่ยวเดือนกรกฎาคมนี้ จึงต้องฉีดให้เสร็จภายในเดือนมิถุนายน เป็นต้น, กลุ่มผู้สูงอายุและ 7 โรคเรื้อรังที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมที่ต้องพิจารณาฉีดให้เป็นกลุ่มแรกๆ “การจัดส่งวัคซีนจากเดิมที่ส่งให้จังหวัดเป็นรายเดือนจะเปลี่ยนเป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว และมีการติดตามผลการฉีดว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ โดยขอให้รายงานจำนวนการฉีดและสต๊อกวัคซีนที่เหลือ หากฉีดได้ตามเป้าหมายจะจัดส่งวัคซีนไปเพิ่มเติม สำหรับการจัดสรรวัคซีนในกลุ่มประชากรของกรุงเทพมหานคร (กทม.) และผู้ประกันตนของสำนักงานประกันสังคม และกทม. เมื่อรับวัคซีนแล้วจะไปดำเนินการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนเอง” นายแพทย์โอภาสกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีการกำหนดให้ประชาชนกลุ่มทั่วไปที่มีอายุ 18-59 ปีทั่วประเทศ ลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อมได้ตั้งแต่ 31 พ.ค.เป็นต้นไป แต่ล่าสุด มีการกำหนดใหม่ให้ลงได้ตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย.เป็นต้นไปใน 76 จังหวัดโดยสามารถลงทะเบียนได้หลากหลายช่องทาง ยกเว้น กทม.ที่มีการดำเนินการจัดลงทะเบียนเองและเริ่มดำเนินการไปแล้ว