วันที่ 29 พ.ค.64 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในวันที่ 31 พ.ค.64 และ วันที่ 1-2 มิ.ย.64 ในวาระแรกว่า ในส่วนของพรรคขณะนี้ ส.ส.ที่ได้เสนอตัวในการอภิปรายในวาระแรก ได้เตรียมข้อมูล ทำการบ้านกันทุกคน ซึ่งนำทีมโดย นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ นายกนก วงษ์ตระหง่าน นายเกียรติ สิทธีอมร นำทีมอภิปรายรวมประมาณ 13 คน ด้วยพรรคได้เวลาในการอภิปราย 138 นาที จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาที่ได้มาให้เกิดประโยชน์ที่สุด
โดยหลักการในวาระหนึ่งคือวาระรับหลักการนั้น ส.ส.ใช้สิทธิในการอภิปรายได้อย่างเต็มที่ การอภิปรายถึงแหล่งที่มาและประมาณการรายได้ผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการจ่ายเงินและที่สำคัญความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาต่างๆ แต่ทั้งนี้ก็มีหลักการการใช้จ่ายงบประมาณก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของวินัยทางการเงินการคลังของรัฐ รวมถึงสภาพปัญหาในพื้นที่ของ ส.ส.ก็จะเป็นข้อมูลที่จำเป็น
ด้วยสาระสำคัญต่างๆเหล่านี้ เมื่อ ส.ส.ได้อภิปรายก็จะเป็นผลดีที่จะทำให้การจัดทำงบประมาณแผ่นดินมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในชั้นกรรมาธิการก็จะได้ไปปรับแก้ให้ดียิ่งขึ้น ต่อไป ในส่วนของพรรคจะยึดหลักการอภิปรายที่มุ่งตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ที่ประชุม สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของพรรคประจำวันที่ 26 พ.ค.64 ในเรื่องการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบในวาระที่หนึ่งแล้ว เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญต่อพี่น้องประชาชน ส.ส.ทุกคนจะเห็นชอบ สิ่งใดที่ต้องการเปลี่ยนแปลงก็ไปว่ากันต่อในชั้นกรรมาธิการ และในการพิจารณาวาระหนึ่งพรรคพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ย้ำว่าส่วนของพรรคเห็นชอบในวาระที่หนึ่งคือวาระรับหลักการชัดเจน