จากกรณีสังคมออนไลน์ได้เผยแพร่หนังสือ บริษัท แอคแคป แอสเซ็ทส์ จำกัด (บริษัท แอคแคปฯ) ที่ทำถึงราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยมีเนื้อหาอ้างว่า บริษัท แอคแคปฯสามารถจัดหาวัคซีนชิโนฟาร์ม จำนวน 20 ล้านโดส และสามารถจัดส่งให้ได้ภายใน 2 สัปดาห์ แต่ไม่สามารถติดต่อขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ จนมีการเผยแพร่หนังสือฉบับดังกล่าวอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดถึงการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของรัฐบาล เมื่อวันที่ 27 พ.ค.64 ที่ผ่านมา
วันที่ 29 พ.ค.2564 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า เบื้องต้นทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้ตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พบว่า บริษัท แอคแคปฯไม่มีชื่อยื่นขึ้นทะเบียนนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์ม รวมทั้งยังจดทะเบียนทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ไม่มีคุณสมบัตินำเข้ายาและเวชภัณฑ์ และไม่ได้เป็นตัวแทนของผู้ผลิตวัคซีนซิโนฟาร์มจริง อีกทั้งทาง ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และผู้อำนวยโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้ออกมาปฏิเสธ พร้อมชี้แจงถึงลักษณะของบริษัท ที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีเอกสารประกอบรายการประกอบยาและการผลิตจากบริษัทเจ้าของวัคซีน เพื่อมาใช้ขอใบอนุญาตต่อ อย. ดังนั้นหนังสือฉบับดังกล่าวนั้น จึงเป็นข้อความที่บิดเบือน และทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 (พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ) เช่นเดียวกับผู้ที่นำข้อมูลดังกล่าวไปเผยแพร่ หรือส่งต่อก็จะเข้าข่ายมีความผิดเช่นกัน
โดยนายชัยวุฒิ กล่าวว่า ทางกระทรวงดีอีเอส กำลังประสานข้อมูลกับ บก.ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์) รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวกรรมการผู้จัดการผู้ลงนามทั้ง 2 รายในหนังสือมาให้ข้อมูล และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหนังสือฉบับดังกล่าว เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป
ซึ่ง นายชัยวุฒิ ยังกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาหลายๆ ฝ่ายมีความพยายามในการตั้งประเด็นโจมตีการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง และรุนแรงขึ้น น่าจะมีการวางแผนเป็นขบวนการเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล แต่ที่เห็นได้ชัดจากกรณี บริษัท แอคแคปฯ ที่ผู้เกี่ยวข้องในส่วนของภาครัฐต่างออกมาปฏิเสธไปแล้ว แต่กรณีนายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิก และแกนนำกลุ่มแคร์ คิดเคลื่อนไทย นำไปพูดคุยแสดงความคิดเห็นผ่านแอปพลิเคชันคลับเฮาส์ มีเนื้อหาสาระให้เกิดความสับสนขึ้นในสังคม ตลอดจนสร้างความเสียหายให้แก่รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง และมีผู้มารีทวิตหรือเผยแพร่ข้อความต่อจำนวนมาก พร้อมกันนี้ยังมีหลักฐานว่า มีความสนิทสนมกับ นายกรกฤษณ์ กิติสิน หนึ่งในผู้บริหารของบริษัท แอคแคปฯ ด้วย
สำหรับการทวีตข้อความในประเด็นเดียวกันล่วงหน้าของคุณดวงฤทธิ์ ขณะที่บริษัท แอคแคปฯถูกเปิดโปงว่า ไม่ใช่ผู้แทนซิโนฟาร์มจริง อาจเป็นขบวนการเดียวกันที่ต้องการสร้างความสับสนและดิสเครดิตรัฐบาล เรื่องนี้กระทรวงดีอีเอสได้รวบรวมหลักฐานการเผยแพร่ข้อความในแพลตฟอร์มต่างๆ รวมทั้งการพูดคุยใน แอปฯคลับเฮาส์ล่าสุดไว้ทั้งหมดแล้ว โดยได้ให้ฝ่ายกฎหมายทำการสรุปว่า มีผู้กระทำผิดกี่รายอย่างไรบ้าง เพื่อดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนต่อไป