ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก Suphanat Aphinyan ของ ดร.ศุภณัฐ อภิญญาณ หรือ "ดร.นิว" นักวิจัยภายใต้สถาบันวิจัย MAST Center และ คณะวิศวกรรมชีวการแพทย์ University of Arkansas ระบุว่า...รัฐซ้อนรัฐที่ปิยบุตรไม่กล้าแจกแจงรายละเอียด สถาบันฯไม่เกี่ยวกับรัฐซ้อนรัฐแต่อย่างใด เพราะรัฐไม่สามารถปกป้องสถาบันฯได้เลย ทุกวันนี้สถาบันฯถูกคุกคามอย่างหนัก ถูกบิดเบือนให้ร้ายด้วยสารพัดข่าวลือบนพื้นฐานของความอาฆาตมาดร้าย และจ้องทำลายหวังล้มล้างการปกครอง ตรงกันข้าม รัฐซ้อนรัฐตัวจริงคือเครือข่ายของนักการเมืองซึ่งมีทุนจำนวนมหาศาลจากการปล้นทรัพย์สมบัติของชาติและประชาชน ผ่านสัมปทานผูกขาดและการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในระยะเวลานับสิบๆปีที่ผ่านมา แล้วนำมาสร้างเครือข่ายลิ่วล้อบริวาร กระจายอยู่ในทุกภาคส่วนของรัฐ อยู่ในทุกกระทรวง ทุกกรมกอง หรือแม้แต่ในรัฐบาลเองก็ตาม จึงไม่แปลกที่รัฐบาลถูกฉีดยาชา ทำงานแบบผิดๆพลาดๆไม่ตรงเป้าหมายอย่างที่ควรเป็น และไม่สามารถปกป้องสถาบันฯได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักการเมืองเครือข่ายนี้เองที่ได้รับวิทยาการทางเทคโนโลยีและเงินทุนสนับสนุนจากต่างชาติ ในการใช้โซเชียลมีเดียเป็นอาวุธบิดเบือนล้างสมอง มอมเมาด้วยชุดความคิดผิดๆ ผลิตข่าวปลอม สร้างกระแสข่าวลือ บ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ แทรกแซงประเทศไทย ตลอดจนอยู่เบื้องหลังการบิดเบือนให้ร้ายและโยนบาปให้สถาบันฯ ทั้งๆที่พวกเขาเองคือมือที่มองไม่เห็นซึ่งคอยหลบอยู่ข้างหลังรัฐบาล แทรกแซงกิจการภายในประเทศ ครอบงำการทำงานของรัฐบาล และมีอำนาจในการแต่งตั้งรัฐมนตรี ลองคิดดูให้ดีๆว่ารัฐบาลชุดนี้ มีใครอยู่เบื้องหลัง? เครือข่ายนักการเมืองในรัฐบาลชุดนี้จำนวนไม่น้อยเป็นลิ่วล้อของใคร? นี่คือเหตุผลว่าทำไมกระบวนการยุติธรรมจึงถูกแทรกแซงอย่างหนัก คดีของธนาธรและปิยบุตรซึ่งเป็นหมากตัวสำคัญของพวกเขายังคงค้างคาไปไม่ถึงไหน โดยเฉพาะความผิดทางอาญาอันเนื่องมาจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ที่เงียบสนิท จนคนแทบจะลืมไปหมดแล้ว กลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของปิยบุตรนั่นแหละที่เป็นรัฐซ้อนรัฐตัวจริงแบบไม่อิงนิยาย สื่อใหญ่หลายสำนักอยู่ในมือของใคร? ทำไมถึงนำเสนอแต่ข้อมูลด้านเดียวที่คนกลุ่มนี้ได้ประโยชน์ หนุนการเคลื่อนไหวของม็อบสามนิ้ว แถมยังขยันผลิตข่าวปลอมออกมาปั่นหัวสามนิ้วและประชาชนได้เรื่อยๆ โดยที่กฎหมายทำอะไรไม่ค่อยได้ สื่อโซเชียลมีเดียจำนวนมากอยู่ในกำมือของใคร? บรรดาคนดังๆและเพจใหญ่ๆจำนวนมากต่างก็รับเงินและผลประโยชน์ ขายตัวแลกเงิน รับใช้การปั่นกระแสบิดเบือนของใคร? จึงกลายเป็นกระบอกเสียงในการปลุกระดม ป้อนชุดความคิดบิดเบือน ปล่อยข่าวปลอม เต้าข่าวลือ ล้างสมองประชาชน เครือข่ายนักการเมืองของใครที่ทำลายระบบการศึกษาไทย เอาวิชาสำคัญๆออกจากหลักสูตร แถมไม่เคยปรับหลักสูตรใหม่ให้ทันต่อยุคสมัย จึงไม่น่าแปลกใจที่เด็กไทยเป็นรองบ๊วยในการรับมือ Fake News จากการจัดอันดับของ OECD และคนรุ่นใหม่ตกเป็นเหยื่อของการปั่นกระแสบิดเบือนและยุยงปลุกปั่นในโซเชียลมีเดีย อย่างไม่ลืมหูลืมตาแบบทุกวันนี้ ผลประโยชน์ของชาติและสัมปทานมากมายถูกผูกขาดโดยทุนกลุ่มใด กิจการของชาติกิจการแล้วกิจการเล่าถูกปล้นอย่างถูกกฎหมาย แปรรูปรัฐวิสาหกิจแล้วให้บรรดาลิ่วล้อเข้ามาเป็นนอมินีถือหุ้นบังหน้า จึงไม่แปลกว่าทำไมประชาชนถึงต้องคอยแบกรับภาระมากมาย ค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายรอบตัวในชีวิตประจำวันมีแต่สูงขึ้นๆ นักการเมืองมีแต่รวยเอารวยเอา ประชาชนมีแต่จนลงจนลง นี่คือระบอบเผด็จการตัวจริงซึ่งสืบทอดอำนาจมาตั้งแต่สมัยคณะราษฎร เพราะคณะราษฎรถือแนวทางที่ผิด ไม่ได้สร้างประชาธิปไตย หากแต่สร้างลัทธิรัฐธรรมนูญหลอกลวงประชาชน สุดท้ายอำนาจอธิปไตยจึงเป็นของประชาชนแค่ในกระดาษตราบจนทุกวันนี้ พระราชอำนาจของสถาบันฯถูกปล้นมาเป็นอำนาจของนักการเมือง โดยไม่ได้ถ่ายโอนมาถึงมือของประชาชนอย่างแท้จริง จึงไม่แปลกที่ผลประโยชน์ของชาติและประชาชนถึงกลายเป็นสมบัติผลัดกันชมของเครือข่ายนักการเมืองที่มีอำนาจล้นฟ้า ขณะที่บทบาทและพระราชอำนาจอันพึงมีของประมุขตามระบอบ Constitutional Monarchy ถูกบั่นทอนมาโดยตลอด ทำให้ขาดผู้ถือดุลในการปกครอง ซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายในการพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของประชาชน พวกเขาจึงต้องการกำจัดสถาบันฯให้พ้นทาง เพราะสถาบันฯเป็นกำลังหลักที่สำคัญที่สุดของประชาชน พวกเขาถึงได้พยายามโดดเดี่ยวสถาบันฯออกจากประชาชน โดยการสร้างความเกลียดชังและทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบันฯ จึงไม่แปลกว่าทำไมคนอย่างปิยบุตรถึงได้โจมตีแต่สถาบันฯ โดยที่ไม่กล้าแตะต้องรัฐซ้อนรัฐตัวจริง ซึ่งเป็นศัตรูตัวจริงที่ขูดรีดประชาชนผ่านสัมปทานผูกขาดและการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในมือของนอมินีมานานนับสิบๆปี เพราะรัฐซ้อนรัฐหรือเปล่าที่ทำให้คดีอาญาอันเนื่องมาจากการยุบพรรคอนาคตใหม่เงียบสนิท?