จากกรณี นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ อดีตประธานศาลฎีกา ปรากฎชื่อเป็นหนึ่งในผู้พิพากษาระดับสูงของศาลฎีกา ที่เว็บ Law360 ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข่าวและวิเคราะห์ในด้านกฎหมายประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวอ้างถึงในผลการสอบสวนภายในของบริษัท โตโยต้า คอร์ป ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า เป็นประธานศาลฎีกาในช่วงเวลา ที่บริษัทโตโยต้า ประเทศไทย ได้มีการติดต่อกับบริษัทสำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง ในการสร้างช่องทางไปถึงทางผู้พิพากษาระดับสูงในศาลฎีกา ผ่านทางผู้พิพากษาและที่ปรึกษา เพื่อที่จะโน้มน้าวให้รับฟังข้อโต้แย้งของบริษัทโตโยต้า และให้ศาลได้มีคำตัดสินในทางที่เป็นคุณกับบริษัทโตโยต้าประเทศไทย เมื่อประมาณปี 2562 ล่าสุด นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ อดีตประธานศาลฎีกา ให้สัมภาษณ์ ถึงข้อเท็จจริงประเด็นดังกล่าวว่า ดูจากช่วงเวลาแล้ว ขณะที่บริษัทโตโยต้า(ประเทศไทย) ยื่นขออนญาตฏีกาหลังจากแพ้คดีในศาลอุทธรณ์ อยู่ในช่วงที่ตนใกล้เกษียณจากตำแหน่งประธานศาลฎีกา ทราบจากข่าวว่าคดีดังกล่าวเป็นเพียงชั้นขออนุญาตฎีกา ซึ่งจะอนุญาตหรือไม่ เป็นเรื่องของแผนกภาษีอากรที่จะพิจารณา ประธานศาลฎีกาไม่อาจไปยุ่งเกี่ยวได้ นายไสลเกษ กล่าวต่อว่า อีกทั้งเรื่องนี้การออกผลคำสั่งเมื่อไหร่อย่างไรตนก็ไม่ทราบและไม่เคยอยู่ในการรับรู้ของตนเลย เพราะเป็นคดีภาษีที่มีแผนกที่รับผิดชอบอยู่แล้ว "การพิจารณาและการอนุญาตอยู่ในอำนาจของแผนก และหากได้รับอนุญาตให้ฎีกาแล้ว การพิจารณาพิพากษาก็ทำโดยแผนกภาษี คดีดังกล่าวเพิ่งเกิดขึ้นในปลายเดือนมีนาคมหลังจากที่ตนเกษียณอายุไปนานแล้ว ช่วงที่มีข่าวนี้ก็อ่านจากสื่อมวลชนเท่านั้น" นายไสลเกษ ระบุด้วยว่า ในช่วงดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาผู้พิพากษาทั้งสองท่านที่ถูกกล่าวหาก็ไม่เคยมาหาหรือพูดคุยเรื่องคดีนี้เลย อย่างไรก็ตามอยากให้สำนักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้ตรวจสอบและชี้แจงเรื่องนี้อย่างละเอียดเพราะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตัวบุคคลที่ถูกกล่าวหาเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบต่อศาลยุติธรรมทั้งระบบ "ในเบื้องต้นต้องขอบคุณทุกคนที่ห่วงใยสถาบันศาลยุติธรรมอยากให้ดำรงความบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแท้จริง ใครไม่สุจริตก็สมควรถูกตรวจสอบและขจัดออกไป" "แต่ก็ขอให้สติว่าอย่าเพิ่งด่วนเชื่อเพียงแค่ข่าวลือข่าวแชร์ ตรวจสอบความถูกต้องเสียก่อน หากตรวจสอบเองไม่ได้ก็รอฟังสำนักงานศาลยุติธรรม ถ้าท่านด่วนแชร์ด่วนไลค์ และเป็นเรื่องเท็จท่านกำลังทำร้ายทั้งสถาบันศาลยุติธรรมและผู้ถูกกล่าวหาที่เขาซื่อสัตย์ทำความดีให้แก่ประเทศชาติอย่างน่าเสียดาย" อดีตประธานศาลฎีกา กล่าวทิ้งท้าย ที่มา:สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) https://www.isranews.org/article/isranews/99019-opentoy63.html