เจ้าของร้านคาราโอเกะยืนยันไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูกค้าหนุ่มชาวขอนแก่น ระบุมีเรื่องชกต่อยกับโต๊ะข้างๆพร้อมสู้ถึงที่สุด ขณะที่ผกก.สภ.ฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ยืนยันคดีมีความคืบหน้าไปมาก แจ้งข้อหากับเจ้าของร้านและภรรยาแล้ว คดีอยู่ระหว่างส่งสำนวนให้กับอัยการ จากกรณีนายประยุทธ์ อายุ 44 ปี ชาว ต.ม่วงหวาน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมมารดาและญาติ นำหลักฐาน ภาพถ่ายขณะรักษาตัวในโรงพยาบาล และคลิปเสียงเจ้าของร้าน เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 หลังพารุ่นน้อง 3 คนเข้าไปสั่งอาหารเครื่องดื่ม ก่อนเช็คบิลค่าอาหารรวม 3,500 บาท แต่มีเงินเพียง 900 บาทไม่พอจ่ายจึงขอโอนจ่ายตอนเช้า และอ้างว่าเจ้าของร้านไม่ยอม ก่อนจะถูกเจ้าของร้านคาราโอเกะในพื้นที่ ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมพวกทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าเสียรูป ปากเบี้ยว พร้อมพยายามขอของมีค่าทั้งโทรศัพท์มือถือและทองที่สวมใส่ในตัวแทน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่คดีไม่คืบหน้า พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกษเจริญคุณ ผกก.สภ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกของวันที่ 14 มกราคม 2564 ที่ร้านดอกเหมยคาราโอเกะ ซึ่งเพื่อนที่มาด้วยกันนำร่างของนายประยุทธ์เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลน้ำพอง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของนายประยุทธ์ ผู้บาดเจ็บ ก่อนที่จะส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2564 ลูกสาวของนายประยุทธ์ผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.นิวัฒน์ โมฆรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นสามี-ภรรยาในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ต่อมาพนักงานสอบสวนได้เรียกพยานหรือเพื่อนของนายประยุทธ์มาให้ปากคำแล้ว 3 ปาก รวมทั้งเจ้าของร้านและภรรยาที่ถูกกล่าวหา และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐาน และแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันพยายามฆ่ากับเจ้าของร้านและภรรยาแล้ว โดยเบื้องต้นเจ้าของร้านให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนกรณีนายประยุทธ์แจ้งว่าการดำเนินคดีล่าช้านั้น ยืนยันว่าคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว แต่เนื่องจากการดำเนินการต้องทำตามขั้นตอน จะต้องทำตามพยานพยานหลักฐาน เพื่อความชัดเจน โดยเฉพาะผลการสอบพยานและผลการวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งต้องใช้เวลา และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนเสร็จแล้ว และได้กำหนดและคาดว่าจะสามารถสั่งสำนวนให้กับอัยการในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ ด้านนายบุดดา จันทรา อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 86 หมู่ 6 บ้านนาสีนวล ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของร้านดอกเหยคาราโอเกะ กล่าวว่า คืนวันเกิดเหตุนั้น นายประยุทธ์มาสั่งอาหารกินกับเพื่อน รวม 4 คน ดื่มสุราหมด 3 กลม และอาหาร ซึ่งรวมบิลแล้ว 3,500 บาท ทั้งนี้ขณะตอนนั่งกินนั้นมีอาการเมา ก่อนจะท้าตีท้าต่อยกับโต๊ะข้างๆกัน ซึ่งคืนนั้นภายในร้านมีลูกค้าเพียง 2 โต๊ะ ก่อนที่จะลุกขึ้นโวยวาย อวดอ้างว่ารู้จักผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน ก่อนจะมีเรื่องทะเลาะกับโต๊ะข้างกันดังกล่าว นายบุดดา กล่าวอีกว่า นายประยุทธ์กับโต๊ะลูกค้าที่มีเรื่องชกต่อยกัน เพิ่งจะเป็นลูกค้าใหม่ที่มาใช้บริการในร้าน และตนไม่เคยมีปัญหากับลูกค้าทั้ง 2 โต๊ะมาก่อน ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายนายประยุทธ์ ในเรื่องไม่จ่ายค่าอาหาร นายประยุทธ์ไปมีเรื่องชกต่อยกับโต๊ะลูกค้าอื่นต่างหาก และตนไม่ได้เป็นตำรวจ ในส่วนที่นายประยุทธ์อ้างว่าจะนำแหวนมาประกันค่าบริการนั้นไม่มี มีแต่โทรศัพท์ 2 เครื่องกับใบขับขี่เท่านั้น ซึ่งตนก็เก็บเป็นหลักฐานไว้ และพร้อมที่จะต่อสู้คดีถึงที่สุด อย่างไรก็ตามตนเป็นเจ้าของร้านจะไปตีลูกค้าอย่างไร และยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้