วันที่ 28 พ.ค.64 พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วยนายทหารฝ่ายอำนวยการ ได้ให้การต้อนรับ ดร.ก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน และคณะ ในการเข้าหารือข้อราชการพร้อมทั้งนำเสนอผลงานวิจัยสิ่งประดิษฐ์ช่วยในการอนุบาลลูกเต่าทะเลไม่ให้กัดกันขณะอยู่ในบ่อเลี้ยง พร้อมทั้งระบบ GPS ติดตามเต่าทะเล
ซึ่งทัพเรือภาคที่ 3 โดย นาวาเอก สุรศักดิ์ อินทร์พรหม เมื่อดำรงตำแหน่ง หัวหน้ากองกิจการพิเศษ ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ ๓ ได้รับผิดชอบดูแลกิจการศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ฐานทัพเรือพังงา ทัพเรือภาคที่ 3 และ นายหิรัญ กังแฮ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ได้ร่วมกันวิจัยวิธีการทำอย่างไรไม่ให้ลูกเต่าทะเลกัดกัน ขณะอยู่ในบ่อเลี้ยง จนสามารถประดิษฐ์อุปกรณ์ที่ช่วยไม่ให้ลูกเต่าทะเลกัดกันได้เป็นผลสำเร็จ สามารถเพิ่มอัตราการรอดชีวิตและสุขภาพของลูกเต่าได้เป็นอย่างดี จนนิตยสารระดับโลกได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย นับว่าเป็นผลสำเร็จอย่างดีในความพยายามช่วยชีวิตลูกเต่าทะเลให้แข็งแรงพร้อมที่จะปล่อยสู่โลกกว้างต่อไป เมื่อครบกำหนดเวลา 6 เดือน – 1 ปี
ในส่วนระบบติดตามตัวเต่าทะเลด้วย GPS นั้น ทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบนได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 10 ปี ทำให้ทราบถึงพฤติกรรมของเต่าทะเลในพื้นที่อันดามัน ซึ่งมักจะขึ้นมาวางไข่บนเกาะ 1 (เกาะหูยง) อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เป็นจำนวนมากกว่า 12,000 ฟองต่อปี และพบว่าแม่เต่าทะเลส่วนมากจะดำรงชีวิต และหากินวนเวียนอยู่โดยรอบของเกาะ 1 2 และ 3 ของหมู่เกาะสิมิลัน ที่ ทรภ.3 มีศูนย์อนุรักษ์เต่าทะเลอยู่บนเกาะ 1 (เกาะหูยง) ตั้งอยู่
นับว่าการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล และทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลต่าง ๆ ล้วนเป็นงานที่มีความท้าทาย ซึ่งจำนวนลูกเต่าทะเลที่คาดว่าจะมีชีวิตรอดไปเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ต่อไข่เต่าที่ฟักออกมา นั้น มีอัตราส่วนถึง 1 : 1,000 ทีเดียว
เชิญชวนให้พวกเราชาวไทยทุกคนร่วมกันหวงแหนและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้คงอยู่ เพื่อรุ่นลูกหลานของเราได้เรียนรู้สืบไป