รอง ผบช.ภ.3 แถลงจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด ตำรวจ ชุด ปส.บุรีรัมย์ สนธิกำลังสืบจังหวัดอำนาจเจริญ ทหาร ตชด.และฝ่ายปกครอง ตามยุทธการ “พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้” หลังสืบทราบว่า จะมีการลำเลียงขนยาบ้าล็อตใหญ่ มาส่งลูกค้าที่บุรีรัมย์ จับลูกค้าที่รอรับยาได้ 3 คน ยึดยาบ้ากว่า 1.2 แสนเม็ด ปืน 2 กระบอกพร้อมลูกปืนจำนวนหนึ่ง ส่วนคนส่งยาบ้าซิ่งเก๋งหลบหนีไปได้ ตามยึดรถเก๋งจอดซุกป่าไว้ที่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ตามยึดทรัพย์มูลค่า 5 แสนบาท
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 28 พ.ค.64 ที่หอประชุมชัยจินดา ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) , พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ , พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ แถลงผลงานของ ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์, ตชด. 215 และ 216 , ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ, สภ.เมืองบุรีรัมย์, สภ.โนนเจริญ, ตำรวจ กก.3 บก.ป. , ทหาร สขว.กอ.กรมน. , ทหารชุดปฏิบัติการข่าว ขกท.ศปก.ทบ.(มว.ขกส.2, ขกท.กกล.สุรนารี) และเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ได้สนธิกำลังร่วมกันจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ตามยุทธการ “ พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้” เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ 3 คน ของกลางยาบ้า 128,421 เม็ด , สารไอซ์ 1.32 กรัม ตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ พ.ศ. 2534 เป็นรถยนต์ 1 คัน และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่า 500,000 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตำรวจชุด ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้รับการประสานข้อมูลจาก กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ ว่า จากการสืบสวนสอบสวนเชิงลึกจนทราบว่า จะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากแนวชายแดนนำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เป็นจำนวนมาก ชุด ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ จึงได้บูรณาการร่วมกับหน่วยข้างต้น สืบสวนจนทราบว่า ลูกค้าที่จะมารับยาบ้าจำนวนนี้คือ นายพิชิต มารมย์ อายุ 28 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.หนองสองห้อง และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงวางแผนจับกุมตัวนายพิชิต ได้พร้อมของกลางสารไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1.32 กรัม
จากการสอบถาม นายพิชิต ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้รอรับยาเสพติดตามข้อมูลที่ตำรวจมีอยู่จริง โดยอยู่ระหว่างรอรับโทรศัพท์ จากผู้ลำเลียงยาเสพติด หรือที่เรียกว่า นักบิน ที่จะนัดให้ไปรับยาบ้า แต่ไม่ทราบมีจำนวนเท่าไหร่ โดยตนเองทำตามคำสั่งของเพื่อนคนหนึ่ง โดยจะให้ค่าจ้างกับตนในการไปเก็บยาบ้า เป็นเงินมัดละ 4,000-5,000 บาท ซึ่งเคยทำมาแล้วหลายครั้งๆ ละ 3-5 มัด
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ขณะที่นายพิชิต อยู่ในการควบคุมตัวของชุดจับกุม ได้มีโทรศัพท์ปลายเสียงเป็นผู้ชาย โทรมาแจ้งว่า ให้ไปรับยาบ้าที่บริเวณหลักกิโลเมตร อีก 11 กิโลเมตร จะถึงบุรีรัมย์ ขณะนั้นชุดจับกุมที่ดักซุ่มกำลังอยู่ตามรายทางบริเวณใกล้เคียง พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ฝากะโปรงสีดำ แต่งซิ่ง ทะเบียน กง 8848 ยโสธร จอดอยู่ในซอยข้างไร่อ้อย ในลักษณะต้องสงสัย อยู่ใกล้กับหลักกิโลเมตรดังกล่าว และเมื่อรถคันดังกล่าวขับออกไป ชุดจับกุมที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้เข้าไปตรวจสอบ บริเวณที่รถคันดังกล่าวจอด ก็พบยาบ้า จำนวน 1 ห่อใหญ่ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ วางอยู่พุ่มไม้ข้างทาง จากการตรวจนับได้จำนวน 60 มัด ประมาณ 120,000 เม็ด จึงได้แจ้งให้ชุดจับกุมที่อยู่ตามจุดต่างๆติดตามสกัดจับกุม แต่ไม่สามารถติดตามได้ทัน เนื่องจากรถดังกล่าวแต่งซิ่งมา และใช้ความเร็วสูง และต่อมาสืบสวนทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวที่หลบหนี ได้ไปจอดซ่อนอยู่ในป่าละเมาะแห่งหนึ่งอยู่ในเขตรอยต่อ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร กับ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร จึงไปทำการตรวจยึดมาไว้เป็นหลักฐานต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกันได้อีก 2 ราย คือรายแรก นายพรเทพ สงวนรักษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.2 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และเป็นผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงเข้าทำการตรวจสอบที่บ้านพัก เมื่อนายพรเทพ เห็นเจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งหลบหนีแต่ไปไม่รอดถูกตับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา ก่อนพาเข้าตรวจค้นในบ้านพักพบพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,911 เม็ด จึงควบคุมตัวมาสอบสวนยังที่ทำการ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์
นายพรเทพ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าที่ถูกจับกุมได้ดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ซึ่งเหลือจากที่ตนไปเก็บมาจาก อ.สตึก ตามคำสั่งของนายวีระ หรือรอน บัตรรัมย์ ที่จ้างให้ตนไปเก็บมาทั้งหมด จำนวน 6 มัด หรือจำนวน 12,000 เม็ด แล้วนายวีระ หรือรอน ให้ตนเก็บเอาไว้กับตัวเองก่อน 1 มัด ส่วนอีก 5 มัด ให้เอาไปให้ลูกค้าชาว อ.บ้านกรวด ซึ่งตนรับจ้างไปเก็บและนำยาบ้าไปให้ลูกค้าตามคำสั่งของนายวีระ หรือรอนมาแล้ว 7-8 ครั้ง เพราะตนเองไม่เสพยาบ้า
จากนั้นชุดจับกุมจึงได้ขยายผลไปตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เอายาบ้าไป จำนวน 5 มัด และสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลางในบ้านพักคือ นายวิรัตน์ เนาวบุตร อายุ 22 ปี ชาว ต.เขาดินเหนือ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 6,510 เม็ด อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก และกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โนนเจริญ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ กับตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบทราบว่า จะมีการลำเลียงยาบ้าล็อตใหญ่จากแนวชายแดนมาส่งลูกค้าที่บุรีรัมย์ และสามารถจับกุมลูกค้าที่บุรีรัมย์ได้ 3 คน ยึดยาบ้าที่มีคนนำมาส่งให้กว่า 1.2 แสนเม็ด ส่วนคนที่เอายาบ้ามาส่งขับรถยนต์หลบหนีการจับกุมไปได้ ก่อนที่ชุดจับกุมจะตามไปตรวจพบรถยนต์ที่มาส่งยาบ้า จอดซุกอยู่ในป่ารอยต่อ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร กับ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ส่วนคนร้ายไม่พบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่นำยาบ้าไปส่งมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการสอบถาม นายพิชิต ให้การรับสารภาพว่า ตนเองเป็นผู้รอรับยาเสพติดตามข้อมูลที่ตำรวจมีอยู่จริง โดยอยู่ระหว่างรอรับโทรศัพท์ จากผู้ลำเลียงยาเสพติด หรือที่เรียกว่า นักบิน ที่จะนัดให้ไปรับยาบ้า แต่ไม่ทราบมีจำนวนเท่าไหร่ โดยตนเองทำตามคำสั่งของเพื่อนคนหนึ่ง โดยจะให้ค่าจ้างกับตนในการไปเก็บยาบ้า เป็นเงินมัดละ 4,000-5,000 บาท ซึ่งเคยทำมาแล้วหลายครั้งๆ ละ 3-5 มัด
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พ.ค.ขณะที่นายพิชิต อยู่ในการควบคุมตัวของชุดจับกุม ได้มีโทรศัพท์ปลายเสียงเป็นผู้ชาย โทรมาแจ้งว่า ให้ไปรับยาบ้าที่บริเวณหลักกิโลเมตร อีก 11 กิโลเมตร จะถึงบุรีรัมย์ ขณะนั้นชุดจับกุมที่ดักซุ่มกำลังอยู่ตามรายทางบริเวณใกล้เคียง พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ฝากะโปรงสีดำ แต่งซิ่ง ทะเบียน กง 8848 ยโสธร จอดอยู่ในซอยข้างไร่อ้อย ในลักษณะต้องสงสัย อยู่ใกล้กับหลักกิโลเมตรดังกล่าว และเมื่อรถคันดังกล่าวขับออกไป ชุดจับกุมที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้เข้าไปตรวจสอบ บริเวณที่รถคันดังกล่าวจอด ก็พบยาบ้า จำนวน 1 ห่อใหญ่ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ วางอยู่พุ่มไม้ข้างทาง จากการตรวจนับได้จำนวน 60 มัด ประมาณ 120,000 เม็ด จึงได้แจ้งให้ชุดจับกุมที่อยู่ตามจุดต่างๆติดตามสกัดจับกุม แต่ไม่สามารถติดตามได้ทัน เนื่องจากรถดังกล่าวแต่งซิ่งมา และใช้ความเร็วสูง และต่อมาสืบสวนทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวที่หลบหนี ได้ไปจอดซ่อนอยู่ในป่าละเมาะแห่งหนึ่งอยู่ในเขตรอยต่อ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร กับ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร จึงไปทำการตรวจยึดมาไว้เป็นหลักฐานต่อไป
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกันได้อีก 2 ราย คือรายแรก นายพรเทพ สงวนรักษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.2 ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และเป็นผู้ที่มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จึงเข้าทำการตรวจสอบที่บ้านพัก เมื่อนายพรเทพ เห็นเจ้าหน้าที่จึงได้วิ่งหลบหนีแต่ไปไม่รอดถูกตับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา ก่อนพาเข้าตรวจค้นในบ้านพักพบพร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,911 เม็ด จึงควบคุมตัวมาสอบสวนยังที่ทำการ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์
นายพรเทพ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าที่ถูกจับกุมได้ดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ซึ่งเหลือจากที่ตนไปเก็บมาจาก อ.สตึก ตามคำสั่งของนายวีระ หรือรอน บัตรรัมย์ ที่จ้างให้ตนไปเก็บมาทั้งหมด จำนวน 6 มัด หรือจำนวน 12,000 เม็ด แล้วนายวีระ หรือรอน ให้ตนเก็บเอาไว้กับตัวเองก่อน 1 มัด ส่วนอีก 5 มัด ให้เอาไปให้ลูกค้าชาว อ.บ้านกรวด ซึ่งตนรับจ้างไปเก็บและนำยาบ้าไปให้ลูกค้าตามคำสั่งของนายวีระ หรือรอนมาแล้ว 7-8 ครั้ง เพราะตนเองไม่เสพยาบ้า
จากนั้นชุดจับกุมจึงได้ขยายผลไปตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่เอายาบ้าไป จำนวน 5 มัด และสามารถจับกุมตัวได้พร้อมของกลางในบ้านพักคือ นายวิรัตน์ เนาวบุตร อายุ 22 ปี ชาว ต.เขาดินเหนือ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 6,510 เม็ด อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก และกระสุนปืนอีกจำนวนหนึ่ง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.โนนเจริญ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจ กก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ กับตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบทราบว่า จะมีการลำเลียงยาบ้าล็อตใหญ่จากแนวชายแดนมาส่งลูกค้าที่บุรีรัมย์ และสามารถจับกุมลูกค้าที่บุรีรัมย์ได้ 3 คน ยึดยาบ้าที่มีคนนำมาส่งให้กว่า 1.2 แสนเม็ด ส่วนคนที่เอายาบ้ามาส่งขับรถยนต์หลบหนีการจับกุมไปได้ ก่อนที่ชุดจับกุมจะตามไปตรวจพบรถยนต์ที่มาส่งยาบ้า จอดซุกอยู่ในป่ารอยต่อ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร กับ อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ส่วนคนร้ายไม่พบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่นำยาบ้าไปส่งมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป