พญ.ศุภมาศ วิบูรณ์สุขสันต์ แพทย์เฉพาะทางระบบประสาทและสมอง ได้โพสต์ข้อมูลผ่านเพจเฟซบุ๊ก คุยเรื่องสมอง กับหมอนุ่ม โดยมีข้อความระบุ ว่า...ปวดศีรษะแบบไหนต้องรีบตรวจ อาจอันตรายถึงชีวิต
อาการปวดศีรษะ ที่อาจจะบอกว่าเป็นโรคอันตรายในสมอง เช่น โรคหลอดสมอง เนื้องอกสมอง หรือการติดเชื้อในสมอง ส่วนมากจะมีอาการปวดที่แตกต่างจากอาการปวดทั่วไปค่ะ แม้จะเจอได้น้อยแค่ 1-2% เท่านั้น แต่ก็อันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นถ้าใครมีอาการต่อไปนี้ข้อใดข้อนึง หมอแนะนำว่า ควรรีบพบแพทย์ด่วนเลยนะคะ แต่ถ้าใครไม่มีก็จะได้สบายใจมากขึ้นค่ะว่า น่าจะไม่ได้มีอันตรายรุนแรงค่ะ
1.ปวดรุนแรงมากสุดในชีวิต แบบไม่เคยปวดมาก่อน
ทุกคนต้องเคยมีอาการปวดศีรษะอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต แต่ถ้าอาการปวดนั้นเป็นไม่รุนแรง พอรำคาญ เรามักจะยังไม่ทำอะไร หรือคนไ้ข้บางกลุ่มก็จะมีอาการปวดหัวเรื้อรังเป็น ๆ หายๆ จนรู้อาการของตัวเองแล้วว่า ต้องปวดประมาณไหน ดังนั้น หากวันไหนที่มีอาการปวดศีรษะ แบบปวดขึ้นมาเฉียบพลันทันที ปวดรุนแรงมากที่สุด ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อน ก็ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีค่ะ เพราะอาจจะต้องระวังภาวะเส้นเลือดสมองแตก หรือเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง
2.ปวดจนอาเจียนพุ่ง
ปกติเวลาปวดหัวอาจจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนได้อยู่แล้ว อาจจะพะอืดพะอม รู้สึกไม่อยากทานอาหาร หรืออาจจะทานอาหารแล้วอาเจียน แต่มักจะไม่ถึงขั้นอาเจียนพุ่ง คือ อาการอาเจียนหลังตื่นนอน และอาเจียนโดยที่ไม่สัมพันธ์กับการรับประทานอาหาร ซึ่งอาเจียนลักษณะนี้อาจจะต้องระวังว่าเกิดจากสาเหตุที่มีความดันในสมองสูงขึ้น เช่น เนื้องอกในสมอง สมองบวม เลือดออกในสมองเป็นต้น
3.ปวดมากขึ้นตอนลุกนั่ง
โดยเฉพาะหากท่านอนไม่มีอาการปวด แต่พอเปลี่ยนมานั่ง แล้วมีอาการปวดมากขึ้น หรือปวดจนอาเจียน ทำให้นั่งหรือยืนไม่ได้ ต้องนอนตลอดเวลา อาการนี้ต้องระวังความดันในโพรงสมองต่ำ ซึ่งเกิดจากการที่มีรูรั่วของน้ำในโพรงสมอง จากอุบัติเหตุบริเวณกระดูกสันหลัง หรือ เกิดตามหลังการบล็อคหลังเพื่อผ่าตัดได้ค่ะ
4.มีอาการผิดปกติทางระบบประสาท
อาการผิดปกติทางระบบประสาทมีได้ตั้งแต่ ตามัว เห็นภาพซ้อน แขนขาชาและอ่อนแรง พฤติกรรมเปลี่ยน คิดช้า พูดช้า ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด นึกคำไม่ออก รวมไปถึงอาการชัก ซึมลง การที่มีอาการปวดหัวและความผิดปกติทางระบบประสาทอย่างใดอย่างหนึ่งร่วมด้วย เป็นการบอกว่า น่าจะมีความผิดปกติบางอย่างเกิดขึ้นในสมอง เช่น มีก้อน มีความดันในสมองสูง สมองบวม ซึ่งสาเหตุก็อาจจะเป็นได้ตั้งแต่ เนื้องอก ติดเชื้อ หรือเลือดออกในสมองได้
5.มีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย
ถ้าปวดศีรษะ แล้วมีอาการร่วมด้วย เช่น ไข้ และน้ำหนักลด ทั้งสองอาการนี้ บ่งชี้ว่า อาจจะมีการติดเชื้อ ซึ่งเป็นได้ตั้งแต่ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฝีในสมอง หรืออาจจะเป็นติดเชื้อที่ตำแหน่งอื่นๆ และทำให้มีอาการปวดศีรษะได้
และหากมีร่วมกับน้ำหนักลดที่ชัดเจน (ลดลงมากกว่า 5% จาก baselineใน 3 เดือน) ก็อาจจะต้องระวังกลุ่มเนื้องอกด้วย หรือถ้ามีโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้ภูมิคุ้มกันลดลง เช่น HIV ทานยากดภูมิคุ้มกัน ก็ต้องระวังเรื่องการติดเชื่อมากขึ้น
6.อายุมากกว่า 50
ในท่านที่ไม่เคยมีอาการปวดศีรษะเป็น ๆ หาย ๆ มาก่อนเลย แล้วเพิ่งมามีอาการตอนอายุเกิน 50 ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นว่าอาจจะมีสาเหตุอะไรจากในสมอง เช่นเนื้องอก หรือ เส้นเลือดสมอง เพราะถ้าเป็นสาเหตุจากกล้ามเนื้อ ไมเกรน ก็มักจะเป็นในช่วงอายุก่อนหน้านี้แล้วค่ะ
จริง ๆ แล้วปวดหัวแล้วเป็นเนื้องอกสมอง หรือโรคเส้นเลือดสมองเจอได้ไม่เยอะค่ะ แต่ถ้าเจอก็จะรุนแรง ดังนั้นถ้ามีอาการอะไรที่ทำให้สงสัย ก็ควรรีบปรึกษาแพทย์ค่ะ