สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันยังคงมีความรุนแรงและไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะยุติเมื่อใด ท่ามกลางกระแสข่าวลือเกียวกับวัคซีน ซึ่งการที่จะให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ทางออกคือต้องให้ประชาชนได้รับวัคซีน เพื่อสร้างความคุ้มกันหมู่ให้เร็วที่สุด ล่าสุด นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติโพสต์ดฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า...จะได้ฉีดวัคซีนเร็วๆนี้แน่นอนคนไทยฝากความหวังไว้กับ ศบค. ในการบริหารจัดการเอาชนะปัญหาโควิด คนไทยทุกคนกำลังรอคอยฉีดวัคซีน จะยี่ห้ออะไรก็รีบๆ คนไทยเชื่อตาม ศบค.ไปแล้วว่า วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่ฉีดเร็วที่สุด แต่เวลานี้ดูเหมือนหมอพร้อมของสาธารณะสุขไปไม่รอด สับสนตั้งแต่เริ่มแรก เข้าเวปไม่ได้ จองไม่ได้ สุดท้ายล้ม ยุทธศาสตร์การฉีดวัคซีนในตอนแรกวางแผนว่า ผู้สูงอายุและผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ 7 โรค ตัวเลขประมาณ 16 ล้านคน แต่ผู้สูงอายุเข้าสู่ระบบเวปหมอพร้อมไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนต่างจังหวัด ตัวเลขคนสูงอายุมาลงทะเบียนไม่ได้ตามเป้าหมายแต่ประเด็นที่อยากจะสะท้อนในวันนี้ จะเรียกว่า บ่นแทนคน กทม.และปริมณฑล คนไทยรับรู้กันว่า พื้นที่ กทม.และปริมณฑลมีคนติดเชื้อ โควิดจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ตัวเลขคนติดเชื้อในต่างจังหวัดเริ่มลดลงและนิ่งมากขึ้น ยุทธศาสตร์ที่น่าจะต้องปรับเปลี่ยนในการฉีดวัคซีน คือต้องควบคุม จำกัดบริเวณของผู้ติดเชื้อ contained ไม่ให้แพร่ขยายออกไปพื้นที่อื่นๆ ด้วยการคัดแยกคนติดเชื้อ นำเข้าระบบรักษา และประการสำคัญ ระดมฉีดวัคซีนให้คนกทม.และปริมณฑล จัดเป็นความเร่งด่วนที่สุด แทนที่จะกระจายตามเป้าหมายเดิม รวมทั้งนำเข้าวัคซีนจากทุกแหล่ง ข่าวลือต่างๆเกี่ยวกับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้ามาจากไหนไม่รู้ แต่รัฐต้องรีบชี้แจง ไม่ใช่ปล่อยให้เงียบ ทำให้คนเกิดความไม่เชื่อมั่น ข่าวที่น่ายินดีคือ ราขวิทยาลัยจุฬา ภรณ์จะสามารถนำเข้าวัคซีนตรงได้เอง และเชื่อว่า ราชวิทยาลัยจุฬา ภรณ์จะช่วยให้คนไทยได้รับวัคซีนโดยเร็วกว่าที่เป็นอยู่