หลังจากที่เมื่อช่วงเย็น ( 27 พ.ค. 64) ที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันนาน ทำให้ดินบริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง ในฝั่งท่าเสา ซึ่งเป็นชุมชนมหาธาตุสมังคี เขตเทศบาลเมืองราชบุรี เกิดทรุดตัวลง บ้านเรือนที่ปลูกอยู่ริมฝั่งพังทลายลงไปในแม่น้ำ นอกจากนี้ต้นโพธิ์ อายุกว่า 100 ปี ก็โค่นล้มลงไปในแม่น้ำด้วย ชาวบ้านที่อยู่ริมฝั่งต่างก็พากันขนย้ายข้าวของออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย จากการสอบถามนายแสวง จันทร์ฟาร์ม 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ถ.ท่าเสา ชุมชนมหาธาตุสมังคี เจ้าของบ้านที่ปลูกบ้านอยู่ริมแม่น้ำ และดินทรุดตัว จนทำให้บ้านพัง ก็บอกว่าช่วงที่เกิดเหตุนั้นมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่วนตนเองนั้นไปอยู่บ้านของญาติที่อยู่ด้านใน พอฝนหยุดก็เดินออกมาดูก็เห็นว่าตลิ่งนั้นทรุดพังลงไปทั้งบ้านทั้งต้นไม้ โชคดีที่ตนกับครอบครัวได้รื้อบ้านออกมาบางส่วน และขนย้ายสิ่งของออกมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่หมด เพราะบ้านที่ตนปลูกนั้นเป็นช่วงที่ทางหลวงจะทำท่อลอดผ่านมาลงแม่น้ำ แต่พอฝนตกมาคราวนี้ตลิ่งทรุดพังหมดเลย ต่อมานายขวัญชัย นิลอร่าม เจ้าหน้าที่ปกครองชำนาญงาน ที่ทำการปกครองอำเภอเมืองราชบุรี และนายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี ได้เข้ามาตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พร้อมกับให้ทำแนวกั้นให้เป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้า โดยนายศักดิ์ชัย พิศาลผล นายกเทศมนตรีเมืองราชบุรี บอกว่า แนวเขตพื้นที่ของเทศบาลเมืองนั้นอยู่แค่แนวเสาไฟฟ้า ส่วนนอกเสาไฟฟ้านั้นเป็นเขตทางหลวง ซึ่งตอนนี้กำลังมีการก่อสร้างท่อระบายน้ำจากตำบลเจดีย์หัก ซึ่งอยู่ติดกับเขตเทศบาลเมือง เพื่อลดปัญหาน้ำท่วม มาลงแม่น้ำแม่กลอง แต่ยังทำการก่อสร้างไม่เสร็จ เมื่อเกิดฝนตกหนักทำให้ดินปนทรายอุ้มน้ำไม่ไหวทำให้ดินทรุดตัวและทำให้บ้านของชาวบ้านและต้นไม้ใหญ่พังไปด้วย เบื้องต้นได้ให้ทางกองช่างของเทศบาลได้ประสานไปทางทางหลวง เพื่อเข้ามาช่วยแก้ปัญหาบริเวณนี้แล้ว และแจ้งไปทางประธานชุมชนให้ประกาศห้ามชาวบ้านเข้ามาในบริเวณนี้และให้กั้นเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าด้วย ส่วนเจ้าของบ้านอีกหลังที่ยังอยู่นั้นก็ให้ย้ายออกไปอยู่กับญาติๆก่อน เนื่องกระแสน้ำนั้นแรงและซัดไปทางฝั่งบ้านอีกหลังที่ยังเหลืออยู่เกรงว่าจะเกิดอันตรายได้