นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ มูลค่า 72,921 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 สัญญา คือ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว, สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย และสัญญาที่ 3 ช่วงเชียงราย-เชียงของ เปิดประมูลโครงการด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของกรมบัญชีกลาง โดยจากการกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ของโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ว่า โครงการดังกล่าวได้กำหนดให้มีการใช้วัสดุภายในประเทศ (Local Content) ตามนโยบายของรัฐบาล และใช้การประกวดราคาด้วยวิธี e-Bidding ของกรมบัญชีกลาง ทั้งนี้เป็นหลักการประกวดราคาทั่วไป ไม่เพียงแค่โครงการรถไฟทางคู่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เท่านั้น แต่ยังมีใช้ในการประกวดราคากับโครงการอื่นๆ ของประเทศ เช่น การประมูลโครงการของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.), กรมทางหลวง (ทล.) เป็นต้น ดังนั้นจึงไม่สามารถกำหนดได้ว่า ใครจะเสนอราเท่าไหร่ และใครจะเป็นผู้ชนะการประกวดราคา อย่างไรก็ตามเมื่อครบกำหนดเวลาการยื่นเสนอราคานั้น กรมบัญชีกลางจะรายงานผล ก่อนที่การรถไฟฯ จะพิจารณาผู้ที่ยื่นเสนอการประกวดราคาว่า มีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ และการเสนอราคาเป็นอย่างไร จากนั้นถึงจะเรียกมาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ดังนั้นยืนยันว่า การดำเนินงานยังไม่มีอะไรที่แสดงถึงความไม่โปร่งใส หรือผิดไปจากระเบียบการดำเนินการที่กำหนดไว้ "โครงการดังกล่าว มีการศึกษาออกแบบไว้เมื่อตั้งแต่เมื่อปี 2555 ตนเองยังมีความเป็นห่วงผู้ที่ชนะการประกวดราคา เพราะมีการศึกษาโครงการฯ มาตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปีนี้ คือ ปี 2564 ผ่านมาแล้วกว่า 9-10 ปี อาจจะทำให้มีราคาต้นทุนสูงขึ้น พอถึงเวลาแล้วผู้ประกอบการจะไหวไหม แต่เมื่อมายื่นเสนอราคาแล้ว ก็ต้องทำให้ได้ นอกจากนี้ ส่วนที่บอกว่าจะให้ล้มประมูล ตนเองมองว่าจะ เสียโอกาสมาก จริงๆ แล้วมีราคากลางอยู่ ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครยื่นร้อง ซึ่งถ้าใครมีคุณสมบัติ ก็มายื่นเสนอราคาแข่งขัน ถ้ามองว่าราคาแพงก็เสนอราคาต่ำ ๆ มา ก็จะได้เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติด้วย" รายงานข่าวจากการรถไฟฯ ระบุว่า โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กิโลเมตร (กม.) มูลค่า 72,921 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 3 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว ระยะทาง 104 กม. มีผู้เสนอราคาในนามกิจการร่วมค้า 2 กลุ่ม มีผู้เอกสารฯ รวม 5 ราย คือ กลุ่มแรก มีผู้ซื้อเอกสารฯ 3 ราย และกลุ่มที่สอง มีผู้ซื้อเอกสารฯ 2 ราย โดยมีผู้ยื่นซองประมูล 2 ราย จากผู้ซื้อซองทั้งหมด 17 ราย โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า กิจการร่วมค้า ITD-NWR ประกอบด้วย บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) หรือ ITD และบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR เสนอราคาต่ำสุด 26,568 ล้านบาท จากราคากลาง 26,599 ล้านบาท สัญญาที่ 2 งาว-เชียงราย ระยะทาง 135 กม. มีผู้เสนอราคาในนามกิจการร่วมค้า 2 กลุ่ม มีผู้เอกสารฯ รวม 4 ราย คือ กลุ่มแรก มีผู้ซื้อเอกสารฯ 3 ราย และกลุ่มที่สอง มีผู้ซื้อเอกสารฯ 1 ราย โดยมีผู้ยื่นซองประมูล 2 ราย จากผู้ซื้อซองทั้งหมด 18 ราย โดยกิจการร่วมค้า CKST JOINT VENTURE ซึ่งประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด(มหาชน) หรือ CK และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ STEC เสนอราคาต่ำสุดที่ 26,900 ล้านบาท จากราคากลาง 26,913 ล้านบาท สัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 84 กม. มีผู้เสนอราคาในนามกิจการร่วมค้า 2 กลุ่ม มีผู้เอกสารฯ รวม 4 ราย คือ กลุ่มแรก มีผู้ซื้อเอกสารฯ 3 ราย และกลุ่มที่สอง มีผู้ซื้อเอกสารฯ 1 ราย โดยมีผู้ยื่นซองประมูล 2 ราย จากผู้ซื้อซองทั้งหมด 16 ราย โดยกิจการร่วมค้า CKST JOINT VENTURE เสนอราคาต่ำสุดที่ 19,390 ล้านบาท จากราคากลาง 19,406 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2561 และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) เห็นขอบ EIA นั้น คาดว่า จะประกาศใช้ พ.ร.ฎ. เวนคืน ในช่วง มิ.ย. 2564 โดยคาดว่า จะประกาศผลการประกวดราคาวันที่ 8 ก.ค. 2564 และลงนามสัญญา 30 ก.ค. 2564 ก่อนเริ่มก่อสร้างใน ต.ค. 2564 แล้วเสร็จ ก.ย. 2570