เมื่อวันที่ 27 พ.ค. นายสกล ชีวะโกเศรษฐ รองประธานกรรมการ ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมสัตว์บก บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร คอร์ปอร์เรชั่น ฟิลิปปินส์ (ซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์) ลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOA) กับ ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งฟิลิปปินส์ (The Development Bank of the Philippines : DBP) เพื่อดำเนินโครงการสนับสนุนการฟื้นฟูแลสร้างความแข็งแกร่งกับอุตสาหกรรมสุกรของประเทศฟิลิปปินส์โดยมี นายวิลเลี่ยม ดี. ดาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม ณ เมืองเฮโรน่า จ.ตาร์ลัค ประเทศฟิลิปปินส์
การลงนามบันทึกข้อตกลงในการดำเนินโครงการ “การให้เครดิต เพื่อฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรมสุกร” หรือ โครงการ สุกร R3 (Swine Rehabilitation, Repopulation and Recovery Credit” or Swine R3 program) ซึ่งเป็นโครงการให้สินเชื่อเพื่อสนับสนุนเกษตรกรยกระดับระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์มสุกร สอดรับนโยบายของรัฐบาลฟิลิปปินส์ที่ต้องการฟื้นฟูห่วงโซ่การผลิตสุกรในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโรคระบาด
นายวิลเลี่ยม กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้จะเป็นความร่วมมือในลักษณะ 3 ประสาน ตามนโยบายของกระทรวงเกษตร เพื่อช่วยกันควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด ASF และเพิ่มปริมาณการผลิตสุกรในพื้นที่ปลอดโรค โดยเชื่อมั่นว่า ด้วยความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการเลี้ยงสุกรที่มีระบบรักษาความปลอดภัยทางชีวภาพที่ทันสมัยของ ซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ และ การอุดหนุนเงินสินเชื่อให้แก่เกษตรกร เป็นการช่วยยกระดับความพยายามในการฟื้นฟูและพัฒนาอุตสาหกรรมสุกรของประเทศเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
“กระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ ซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีเทคโนโลยีและระบบการจัดการที่ทันสมัย โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ (Biosecurity system) เป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้การผลิตสุกรของฟิลิปปินส์กลับสู่สภาะปกติ และซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ยังช่วยขยายการผลิตในพื้นที่ใกล้กับกรุงมะนิลา ซึ่งเป็นตลาดหมูที่สำคัญของประเทศ”รมว.เกษตรฟิลิปปินส์ กล่าว
ด้านนายสกล กล่าวว่า ซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นกิจการในกลุ่มบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ที่เข้ามาลงทุนและดำเนินธุรกิจในประเทศฟิลิปปินส์ ยึดมั่นในปรัชญา “3 ประโยชน์” เป็นหลักในการทำธุรกิจ ทั้งนี้ โครงการความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อที่จะช่วยกันฟื้นฟูอุตสาหกรรมสุกรของฟิลิปปินส์ สร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งเสริมให้ประชาชนชาวฟิลิปปินส์ได้บริโภคอาหารคุณภาพ ปลอดภัย อย่างเพียงพอ ตลอดจนสามารถสร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงให้กับพี่น้องเกษตรกร เร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของฟิลิปปินส์อย่างยั่งยืน
“ความร่วมมือครั้งนี้ ซีพีเอฟ ฟิลิปปินส์ จะมาช่วยแบ่งปันองค์ความรู้ด้านระบบความปลอดภัยทางชีวภาพในฟาร์มที่ทันสมัยช่วยให้ภาคการผลิตสุกรของฟิลิปปินส์สามารถปรับตัวและป้องกัน ASF ได้สำเร็จ และสร้างโอกาสในการพัฒนาสู่การผลิตเพื่อส่งออกต่อไป ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมสุกรฟิลิปปินส์เติบโตอย่างยั่งยืน”นายสกล กล่าว