วันที่ 27 พ.ค.64 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ก่อนที่จะเข้าประชุมนายชวน ได้ขอความร่วมมือให้สมาชิกใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของศบค.ในการควบคุมโรคโควิด รวมทั้งเวลาในการอภิปรายก็ต้องสวมหน้ากากด้วย จากนั้นที่ประชุมได้พิจารณา พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กล่าวชี้แจงสาระคัญว่า อัตราดอกเบี้ยของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ได้ใช้บังคับนานากว่า 95 ปี โดยไม่ได้มีการปรับให้สอดคล้องกับสภาพการณ์ และสภาพเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดไว้ร้อยละ 5 ต่อปี เป็นอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าอัตราเงินฝากในธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบันที่มีอัตราเฉลี่ยร้อยละ 0.5 ต่อปี จึงทำให้ลูกหนี้ได้รับความเดือดร้อนจากภาระดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนดไว้สูงเกินสมควร จึงทำให้ประวิงเวลาในการฟ้องคดีของเจ้าหนี้เพื่อหาประโยชน์จากความไม่เหมาะสมของอัตราดอกเบี้ยในกฎหมาย นอกจากนี้ในสัญญาให้สินเชื่อบางประเภทเจ้าหนี้มีอำนาจต่อสูงกว่าลูกหนี้มาก เจ้าหนี้จำนวนหนึ่งได้กำหนดวิธีการคำนวนดอกเบี้ยผิดรับชำระหนี้ในทำนองที่เอาเปรียบ และไม่เป็นธรรมต่อลูกนี้อย่างมาก เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้ในงวดใด เจ้าหนี้อาจคำนวนจำนวนดอกเบี้ยผิดนัดในงวดนั้นได้จากเงินต้นคงค้างทั้งหมด แทนที่จะคำนวนต้นในงวดที่ถึงกำหนดชำระแล้วเท่านั้น หากลูกหนี้ผิดนัดหลายงวดติดต่อกันก็จะดอกเบี้ยผิดนัดก็จะสะสมจำนวนที่สูงมาก จนทำให้ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว เกิดเป็นหนี้เสียส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาโรคโควิดทำให้ประชาชน และผุ้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมจำนวนมาก ไม่สามารถใช้หนี้ได้ตามปกติ กระทรวงการคลังจึงเห็นว่าการคำนวนดอกเบี้ยไม่เป็นธรรมดังกล่าว เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องแก้ไข จึงมีความจำเป็นเร่งด่วนไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงของเศรษฐกิจในประเทศ จึงมีความจำเป็นต้องตราพ.ร.ก.ดังกล่าว นายอาคม กล่าวว่า ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่สอดคล้องกับสภาพการณ์และสภาพเศรษฐกิจ ลดภาระลูกกนี้จ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินสมควร และยังเป็นการแก้ปัญหาเจ้าหนี้จำนวนหนึ่งประวิงในการฟ้องคดีเพื่อมุ่งหวังที่จะหากำไรจากอัตรดอกเบี้ยในกฎหมายที่ไม่สมควร และให้เจ้าหนี้คำนวนดอกเบี้ยจากต้นเงินของงวดที่ผิดนัดแล้วทำให้ลูกหนี้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลง และได้รับความเป็นธรรมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะลูกหนี้ที่ประกอบวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมที่ไม่ได้ตั้งใจจะผิดนัดชำระหนี้ แต่เพราะผลกระทบจากวิกฤตโควิด ดังนั้นพ.ร.ก.ดังกล่าวจะช่วยลดการฟ้องร้องคดีระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ และลดโอกาสในการเกิดหนี้เสียต่างๆที่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ดังนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะอนุมัติร่างพ.ร.ก.ดังกล่าว จากนั้นน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ขอชมเชยในการแก้พ.ร.ก.ฉบับนี้เพราะเป็นการช่วยเหลือลูกหนี้ให้ได้รับความเป็นธรรม และสอดคล้องกับสภาวะปัจจุบันมากยิ่งขึ้น แต่ก็ช้าเหลือเกินประชาชนต้องรอเกือบ 95 ปี และความเสียหายก่อนหน้านี้ใครจะรับผิดชอบ ดังนั้นเห็นด้วยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 3 เปอร์เซ็นต์ต่อปี จาก 7.5 ต่อปี ที่ผ่านมาต้องมีลูกหนี้กี่รายกันที่ต้องรับภาระที่ไม่เป็นธรรมนี้ มีลูกหนี้กี่รายที่ผิดพลาดเพียงไม่กี่ครั้ง แต่ต้องกลับต้องรับหนี้ก้อนใหญ่ ต้องมีลูกหนี้กี่รายที่กลายเป็นหนี้เสีย ทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจจะขาดส่ง แต่ด้วยอัตราดอกเบี้ยผิดนัดที่สูงเกินไป แถมยังถูกคิดดอกเบี้ยจากเงินต้นที่เหลือทั้งก้อน แทนที่จะคิดเฉพาะงวดที่ขาดส่ง จนสุดท้ายก็ผ่อนต่อไม่ไหวเพราะภาระดอกเบี้ยผิดนัด และยังไม่ต้องพูดถึงสิ่งที่ยังไม่ได้แก้ไขในกฎหมายนี้ หากลูกหนี้ส่งค่างวด โดยมีดอกเบี้ยที่ค้างอยู่ ในการผ่อนแต่ละงวดที่เหลือ ค่างวดจะถูกนำไปตัดดอกเบี้ยก่อน ด้วยความที่ดอกเบี้ยบานเพราะผิดนัด ทำให้ยิ่งส่งก็ยังตัดแต่ดอก ไม่ถึงเงินต้นเสียที จนทำให้ลูกหนี้บางรายเริ่มท้อ ถอดใจ และกลายเป็นหนี้เสียในที่สุด “อยากฝากถึงลูกหนี้ทุกท่านที่กำลังฟังดิชั้นอยู่ อย่าจำสับสน เพราะถ้าท่านเป็นลูกหนี้ธนาคารไม่ได้บังคับใช้แบบเดียวกัน ท่านจะพบว่าธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินอื่นๆสถาบันการเงินตามกฎหมายธุรกิจสถาบันทางการเงินทุกแห่ง บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรายย่อย ธุรกิจให้เช่าแบบลีซซิ่ง เช่าซื้อ บริษัทบริหารสินทรัพย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล (ภายใต้กำกับ) ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบธุรกิจ (ภายใต้กำกับ) ไม่ได้อยู่ใต้กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ นอกจาก ดอกเบี้ยผิดนัดแล้ว ยังมีความไม่เป็นธรรมอื่นๆ ที่ไม่เป็นธรรม เช่น ค่าทวงถามหนี้ ค่าบริการอื่นๆ เช่นผู้ประกอบการที่ภูเก็ต ค้างชำระ ค่างวด 6,900 บาท แต่มีค่าบริการ ค่าทวงถาม ร่วม 6,000 บาท เป็นหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าหน่วยงานใดจะเป็นผู้กำกับต้องเป็นผู้อำนวยความเป็นธรรม”น.ส.ศิริกัญญา กล่าว