เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 27 พ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อหรือทีมสก็อต มูลนิธิประชาร่วมใจจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้เสียชีวิตจากการป่วยติดเชื้อโควิด 19 จากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เพื่อทำการฌาปนกิจทันที โดยเจ้าหน้าที่อยู่ในชุดป้องกันเชื้อหรือชุด PPE. อย่างรัดกุม ได้รับศพรายที่ 13 ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นชายชราอายุ 85 ปี เป็นผู้ป่วยวัยชราที่มีโรคประจำตัวร่วมหลายโรค มีภูมิลำเนาในอำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการใช้เตาเผาบนเมรุความร้อนสูงของวัดบุญนารอบ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เป็นสถานที่ในการฌาปนกิจ
การสอบสวนโรคของผู้ป่วยติดเชื้อรายนี้พบว่ามีการติดเชื้อจากครอบครัว โดยขณะนี้ยังมีคนในครอบครัวรักษาตัวอยู่ยังไม่รู้ว่าบิดาได้เสียชีวิตลง เจ้าหน้าที่ได้นำเข้าสู่กระบวนการป้องกันเชื้อและส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ทีมสก็อต เคลื่อนย้ายเข้าฌาปนกิจ ขณะที่พระครูปลัดบวร ปวรธัมโม เจ้าอาวาสวัดบุญนารอบ ได้นิมนต์พระสงฆ์ในวัดมาทำการสวดมาติกาบังสุกุล ให้กับผู้เสียชีวิตโดยมีญาติของผู้เสียชีวิตรายนี้ร่วมประกอบพิธีอย่างเศร้าโศก อย่างไรก็ตามแพทยืและพยาบาล รพ.มหาราชยังคงเร่งยื้อชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ที่อยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤติ หรือไอซียู.ในส่วนของโควิด 19 อีกอย่างน้อย 5 รายที่อยู่ในภาวะวิกฤติแพทย์ใช้เครื่องพยุงชีพเต็มรูปแบบ
การสอบสวนโรคของผู้ป่วยติดเชื้อรายนี้พบว่ามีการติดเชื้อจากครอบครัว โดยขณะนี้ยังมีคนในครอบครัวรักษาตัวอยู่ยังไม่รู้ว่าบิดาได้เสียชีวิตลง เจ้าหน้าที่ได้นำเข้าสู่กระบวนการป้องกันเชื้อและส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ทีมสก็อต เคลื่อนย้ายเข้าฌาปนกิจ ขณะที่พระครูปลัดบวร ปวรธัมโม เจ้าอาวาสวัดบุญนารอบ ได้นิมนต์พระสงฆ์ในวัดมาทำการสวดมาติกาบังสุกุล ให้กับผู้เสียชีวิตโดยมีญาติของผู้เสียชีวิตรายนี้ร่วมประกอบพิธีอย่างเศร้าโศก อย่างไรก็ตามแพทยืและพยาบาล รพ.มหาราชยังคงเร่งยื้อชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 ที่อยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤติ หรือไอซียู.ในส่วนของโควิด 19 อีกอย่างน้อย 5 รายที่อยู่ในภาวะวิกฤติแพทย์ใช้เครื่องพยุงชีพเต็มรูปแบบ