เมื่อวันที่ 27 พ.ค.64 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 1 กก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน พ.ต.ท.ธนนท์ ล้นเหลือ รอง ผกก.สส.สภ.กระทุ่มแบน พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ ศักดิ์ชัยยันต์ พ.ต.ท.ณัฏฐ์ ชูแก้ว สว.สส.สภ.กระทุ่มแบน ร่วมกันจับกุม นายธีรพล หรือน็อต (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.90/2564 ลง 31 มี.ค.64 ในข้อหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการปลอม และร่วมกันปลอมบัตรประจำตัวประชาชน และใช้บัตรประจำตัวประชาชนปลอม
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มี.ค.64 นางบุญสม (ผู้เสียหาย) อายุ 64 ปี ได้เดินทางแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายซึ่งมีพฤติการณ์ในการฉ้อโกงหลอกลวงขายที่ดินติดจำนองให้กับตน โดยกลุ่มผู้ต้องหามีทั้งหมด 5 คน ทำกันเป็นขบวนการ มีการวางแผนหลอกขายที่ดินที่ถูกจำนองไว้ให้กับผู้เสียหาย และอ้างกับผู้เสียหายว่า ต้องไถ่ถอนจำนองที่ดินเป็นจำนวนเงิน 550,000 บาท เสียก่อน โดยทั้งหมดมีการอ้างตัวเป็นทั้งเจ้าของที่ดิน เสี่ยรับจำนอง นายหน้าขายที่ดิน ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ นำเงินไปไถ่ถอนจำนองที่ดิน เป็นเงินจำนวน 550,000 บาท แต่ต่อมาภายหลังผู้เสียหายทราบว่า ตนถูกหลอก จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.กระทุ่มแบน รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับผู้กระทำผิด จนสามารถยืนยันตัวคนร้ายทั้ง 5 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุ คือ 1. นายธีรพล ทำหน้าที่เป็นนายหน้าขายหรือจำนองที่ดิน 2. นายรณฤทธิ์ ทำหน้าที่เป็นเจ้าของที่ดิน 3. นายอนันต์ ทำหน้าที่เป็นเจ้าของที่ดิน 4. นายชยาวุธ ทำหน้าที่เป็น เสี่ยที่รับจำนองที่ดินไว้ 5. นายบรรจา เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่โอนเงินค่าเดินทาง 2,000 บาท ให้กับผู้เสียหายก่อนวันเกิดเหตุ และมาร่วมกระทำความผิดด้วย
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 เม.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สามารถจับกุมนายบรรจา ผู้ต้องหาที่ 5 ได้ที่บริเวณริมถนนข้างบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง หมู่ 9 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และขยายผลจับกุมนายรณฤทธิ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้บริเวณหอพักไม่มีชื่อ ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังจากนั้นได้นำตัวทั้งผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินคดี
และล่าสุดเจ้าหน้าตำรวจกองปราบปราม และเจ้าหน้าตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ยังคงสืบสวนติดตามขยายผลผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 1 คน คือนายธีรพล ผู้ต้องหาที่ 1 ที่หลบหนีซ่อนตัวอยู่ภายในบริเวณรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินคดี สอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มี.ค.64 นางบุญสม (ผู้เสียหาย) อายุ 64 ปี ได้เดินทางแจ้งความพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายซึ่งมีพฤติการณ์ในการฉ้อโกงหลอกลวงขายที่ดินติดจำนองให้กับตน โดยกลุ่มผู้ต้องหามีทั้งหมด 5 คน ทำกันเป็นขบวนการ มีการวางแผนหลอกขายที่ดินที่ถูกจำนองไว้ให้กับผู้เสียหาย และอ้างกับผู้เสียหายว่า ต้องไถ่ถอนจำนองที่ดินเป็นจำนวนเงิน 550,000 บาท เสียก่อน โดยทั้งหมดมีการอ้างตัวเป็นทั้งเจ้าของที่ดิน เสี่ยรับจำนอง นายหน้าขายที่ดิน ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อ นำเงินไปไถ่ถอนจำนองที่ดิน เป็นเงินจำนวน 550,000 บาท แต่ต่อมาภายหลังผู้เสียหายทราบว่า ตนถูกหลอก จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา
เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.กระทุ่มแบน รวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับผู้กระทำผิด จนสามารถยืนยันตัวคนร้ายทั้ง 5 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุ คือ 1. นายธีรพล ทำหน้าที่เป็นนายหน้าขายหรือจำนองที่ดิน 2. นายรณฤทธิ์ ทำหน้าที่เป็นเจ้าของที่ดิน 3. นายอนันต์ ทำหน้าที่เป็นเจ้าของที่ดิน 4. นายชยาวุธ ทำหน้าที่เป็น เสี่ยที่รับจำนองที่ดินไว้ 5. นายบรรจา เป็นบุคคลที่ทำหน้าที่โอนเงินค่าเดินทาง 2,000 บาท ให้กับผู้เสียหายก่อนวันเกิดเหตุ และมาร่วมกระทำความผิดด้วย
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 เม.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม สามารถจับกุมนายบรรจา ผู้ต้องหาที่ 5 ได้ที่บริเวณริมถนนข้างบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง หมู่ 9 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร และขยายผลจับกุมนายรณฤทธิ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 2 ได้บริเวณหอพักไม่มีชื่อ ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังจากนั้นได้นำตัวทั้งผู้ต้องหาทั้ง 2 ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินคดี
และล่าสุดเจ้าหน้าตำรวจกองปราบปราม และเจ้าหน้าตำรวจ สภ.กระทุ่มแบน ยังคงสืบสวนติดตามขยายผลผู้ต้องหาเพิ่มได้อีก 1 คน คือนายธีรพล ผู้ต้องหาที่ 1 ที่หลบหนีซ่อนตัวอยู่ภายในบริเวณรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ดำเนินคดี สอบถามผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา