วันที่ 26 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์รายงานว่า ช่วงหัวค่ำที่ผ่านมีปรากฎการณ์ทางธรรมชาติจันทรุปราคาเหนือท้องฟ้าในวันวิสาขบูชา โดยมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปบันทึกภาพที่เขื่อนกันคลื่นตั้งแต่หน้ากองบิน 5 ถึงสะพานคลองบางรม บริเวณสะพานสราญวิถี ด้านหน้าอ่าวประจวบฯแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ ขณะเดียวกันที่ อ.ทับสะแกก่อนเห็นดวงจันทร์ท้องฟ้าเปิดสว่างสวยงาม แต่เมื่อถึงเวลา 18.30 น.ใกล้มีปรากฏการณ์จันทรุปราคา เริ่มมีเมฆลอยเกาะกลุ่ม กระทั่งมองเห็นจันทรุปราคาเหนือท้องฟ้าด้านทิศตะวันออก พระจันทร์เริ่มเป็นสีเลือด
ต่อมา ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ทับสะแกเห็นปรากฏการณ์แปลกประหลาด โดยก้อนเมฆที่ลอยบนท้องฟ้ามีลักษณะคล้ายจระเข้ขนาดใหญ่ กำลังอ้าปากกินดวงจันทร์ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ก้อนเมฆจระเข้ได้หายไป แต่ชาวบ้านมองเห็นกลุ่มเมฆเป็นภาพของอสุรกายจำนวนมาก เกาะกลุ่มกันลอยมาจากทิศใต้มุ่งหน้าทิศเหนือ หรือจากภาคใต้ไปกรุงเทพฯ โดยมีสุริยุปราคาสีเลือดปรากฏอยู่เบื้องหน้าอสุรกาย
ทำให้ชาวบ้านที่ติดตามดูดวงจันทร์ที่ชายทะเลทับสะแก ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้ได้ แต่ภาพไม่ชัดเจน เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน หลังจากมีการนำภาพไปเผยแพร่ในสังคมโซเซียลทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดอาเพศกับบ้านเมืองหรือเป็นลางร้ายตามความเชื่อของคนโบราณ
ขอบคุณเครดิตภาพ เฟซบุ๊ก “ประสบโชค จิตไชยชาญ”
ต่อมา ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ทับสะแกเห็นปรากฏการณ์แปลกประหลาด โดยก้อนเมฆที่ลอยบนท้องฟ้ามีลักษณะคล้ายจระเข้ขนาดใหญ่ กำลังอ้าปากกินดวงจันทร์ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ก้อนเมฆจระเข้ได้หายไป แต่ชาวบ้านมองเห็นกลุ่มเมฆเป็นภาพของอสุรกายจำนวนมาก เกาะกลุ่มกันลอยมาจากทิศใต้มุ่งหน้าทิศเหนือ หรือจากภาคใต้ไปกรุงเทพฯ โดยมีสุริยุปราคาสีเลือดปรากฏอยู่เบื้องหน้าอสุรกาย
ทำให้ชาวบ้านที่ติดตามดูดวงจันทร์ที่ชายทะเลทับสะแก ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้ได้ แต่ภาพไม่ชัดเจน เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน หลังจากมีการนำภาพไปเผยแพร่ในสังคมโซเซียลทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดอาเพศกับบ้านเมืองหรือเป็นลางร้ายตามความเชื่อของคนโบราณ
ขอบคุณเครดิตภาพ เฟซบุ๊ก “ประสบโชค จิตไชยชาญ”