โควิดไทยทุบสถิติตาย 41ติดเชื้อรายวัน 2,455 ราย รวมป่วยสะสม 137,894 ราย "หมอทวีศิลป์" เผยยังห่วงกทม. พบ 5 คลัสเตอร์ใหม่ "ห้างสรรพสินค้า-ตลาด-โรงงานเย็บผ้า" ระบุถก"ศบค."สั่งชะลอลงทะเบียน "หมอพร้อม" ขณะที่ "นายกฯ" สั่ง "เลขาสมช."ปรับแผนกระจายวัคซีนใหม่ ยึดเกณฑ์ติดเชื้อโควิดสูง-ศก.-ท่องเที่ยว-แรงงาน-อว. เผยไทยมียอดฉีดวัคซีนให้ปชช.ขึ้นอันดับ 2 ของอาเซียน ส่วน "คลัสเตอร์สมศักดิ์" พ่นพิษ! หลาน "วัชระ เพชรทอง"เสียชีวิต หลังติดเชื้อกว่าเดือน
เมื่อวันที่ 26 พ.ค.64 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อในประเทศ 1,960 ราย โดยเป็นการติดเชื้อ ในเรือนจำ 479 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 16 ราย รักษาหายเพิ่มขึ้น 2,571 ราย กลับบ้านแล้ว 91,765 รายอยู่ระหว่างรักษาตัว 45,256 รายแบ่งเป็นในโรงพยาบาล 18,631 รายและโรงพยาบาลสนาม 26,625 ราย โดยในจำนวนนี้มีอาการหนัก (ปอดอักเสบ) 1,210 ราย ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 402 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 41 คนรวมยอดผู้เสียชีวิตสะสม 873 คน ขณะที่ยอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 137,894 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า แนวโน้มการระบาดในภาพรวมของประเทศคงตัว และยังมีการระบาดเป็นกลุ่มก้อนต่อเนื่องจากกลุ่มเดิม โดยเฉพาะโรงงาน แคมป์ก่อสร้าง ชุมชน โดยพื้นที่กรุงเทพฯ ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากมีการพบคลัสเตอร์ที่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยในวันนี้พบคลัสเตอร์ใหม่ 5 แห่ง คือ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถ.ลาดพร้าว, โรงงานเย็บผ้า เขตยานนาวา, ตลาดแห่งหนึ่งในเขตหนองจอก, เคหะแห่งหนึ่ง ในแขวงคลองจั่น, แคมป์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในเขตสวนหลวง
"ขณะนี้ กทม.มีคลัสเตอร์ระบาดเพิ่มเป็น 38 แห่ง แบ่งเป็นกลุ่มเฝ้าระวังสูงสุด 29 แห่ง กลุ่มเฝ้าระวัง 4 แห่ง และคลัสเตอร์ที่พบใหม่ 5 แห่ง"โฆษก ศบค. กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผอ.ศบค.ได้สั่งการให้เลขาสมช.ในฐานะเลขาศปก. ให้ดำเนินการใน 2 ข้อคือ1.ให้ชะลอการลงทะเบียนหมอพร้อมออกไปก่อน รอให้วัคซีนเข้ามาอาจจะมีแอพอื่นมารองรับ ส่วนหมอพร้อมตอนนี้จะให้ทำ 2 ส่วนคือติดตามการฉีดวัคซีน และใบประกาศรับรอง ส่วนคนที่ลงทะเบียนในหมอพร้อมกลุ่มผู้สูงอายุ และ 7 กลุ่มโรคเสี่ยงยังยืนยันว่ายังอยู่ในระบบว่าหมอพร้อมจะได้รับวัคซีนในช่วงเวลาที่เหมาะสมตามวันเวลาหรือจำนวนวัคซีนที่จะเข้ามา 2.สำหรับแผนการแจกจ่ายวัคซีน จะมีการปรับแผยใหม่หากวัคซีนเข้ามา จะมีน้อยอมีมาก จากเดิมมีการจัดสรรโควตาตามที่จอง บางจังหวัดจองจำนวนมากแต่คนติดเชื้อน้อย และติดไม่มาก แต่ได้วัคซีนไป แต่ปัจจุบันนายกฯสั่งการให้เลขาศปก.หารือกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข และอธิบดีกรมควบคุมโรคเห็นว่า เพื่อปรับเข้ากับสถานการณ์โดยจะใช้เกณฑ์การติดเชื้อมาก เช่นจังหวัดเพชรบุรี ตอนนี้ติดเชื้อ 2,000 คน ต้องนำเอาโควต้าให้กับจังหวัดเพชรบุรี และอัตราการติดเชื้อรายวันต้องนำมาคิด รวมทั้งในด้านของเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว และบุคคลที่เสี่ยง เช่น แรงงานจะต้องมีได้วัคซีน หรือเป็นกลุ่มเฉพาะ ซึ่งตอนนี้กระทรวงคมนาคม ได้จัดสรรวัคซีนให้กับคนขับรถสาธารณะที่บางซื่อ หรือกระทรวงอุดมศึกษา ต้องฉีดให้กับเด็ก ดังนั้นแผนการฉีดวัคซีนจะมีการปรับใช้หลายเกณฑ์ และจัดสรรใหม่ให้เลขาสมช ไปดูรายละเอียดในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด ตอบสนองความต้องการของประชาชน และการขับเคลื่อนประเทศต่อไป
ส่วน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปร่วมงานณาปนกิจศพหลานชาย คือ นายณัฐพล ติวุตานนท์ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการผังเมือง สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดสุโขทัย อายุ 42 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ที่วัดไทยชุมพล ต.ธานี อ.เมือง จ.สุโขทัย จากคลัสเตอร์นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รวม.ยุติธรรมที่จัดรดน้ำดำหัวกินเลี้ยงในเทศกาลสงกรานต์เมื่อวันที่ 12 เม.ย.64 ที่ร้านอาหารคาเฟ่เดอทรี อ.เมือง จ.สุโขทัย โดยนายณัฐพลตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 19 เม.ย.และเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสุโขทัย วันที่ 20 เม.ย.และเสียชีวิตในวันที่ 25 พ.ค.เวลา 05.00 น.และฌาปนกิจในเวลา 16.00 น.วันเดียวกันที่วัดไทยชุมพล
วันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว. กลาโหม กล่าวว่า ได้ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ทำให้รัฐบาลเร่งระดมฉีดวัคซีนให้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข อสม. ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและมีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีโรคประจำตัว จากรายงานล่าสุดเมื่อ 25 พ.ค.64 ไทยมีจำนวนการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วถึง 3,024,313 โดส เป็นอันดับ 5 ของอาเซียนและจะเลื่อนขึ้นเป็นอันดับ 2 ในอาเซียน ด้วยการระดมฉีดวัคซีนอีก 6-8 ล้านโดสภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนผ่านระบบหมอพร้อมแล้วกว่า 7,931,765 ล้านด้วย
ทั้งนี้ นายกฯ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานร่วมอำนวยความสะดวกการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนทุกคนที่พร้อม ฉีดวัคซีนและได้ลงทะเบียนเพื่อขอรับวัคซีน ให้เป็นไปอย่างสะดวก เรียบร้อย เพื่อร่วมกันสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ ควบคู่ไปกับการปฎิบัติตามมาตรการสาธารณสุข สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและควบคุมโรคแก่ประชาชนที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีนในสถานที่พยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน